เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เปิดเผยว่า ตัวเขาจะเดินทางไปยังตุรกีในวันที่ 15 พ.ค. นี้ เพื่อร่วมการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตามที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เสนอในการแถลงผ่านโทรทัศน์ โดยข้อเสนอของยูเครนที่ให้เริ่มหยุดยิ่งตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 พ.ค. ยังคงอยู่ ซึ่งทางเคียฟยังคงรอคำตอบจากฝั่งรัสเซีย
“ผมจะอยู่ที่ตุรกีในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค.นี้ และผมคาดหวังว่าปูตินจะอยู่ที่ตุรกีด้วยเช่นกัน ผมหวังว่าครั้งนี้ ปูตินจะไม่หาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำอะไรไม่ได้ เราพร้อมที่จะเจรจาเพื่อยุติสงคราม วันพฤหัสบดี ที่ตุรกี ประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนเรื่องนี้ ผู้นำทุกประเทศสนับสนุนเรื่องนี้” เซเลนสกีกล่าว
เขาเสริมว่า “ตั้งแต่วันจันทร์ เราคาดหวังว่าจะมีการหยุดยิง ข้อเสนอเรื่องนี้ยังอยู่ การหยุดยิงโดยสิ้นเชิงและไม่มีเงื่อนไข ที่นานพอที่จะเป็นรากฐานที่จำเป็นสำหรับการทูต อาจทำให้เข้าใกล้สันติภาพได้มากขึ้น”
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ ได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. ภายหลังการประชุมที่กรุงเคียฟเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ซึ่งหลังจากนั้น ปูตินก็ได้แถลงผ่านโทรทัศน์ เสนอให้จัดการ “เจรจาโดยตรง” กับยูเครน ที่ตุรกีในวันที่ 15 พ.ค. แต่ไม่ได้กล่าวถึงข้อเสนอให้หยุดยิง
ต่อมาในวันที่ 11 พ.ค. ทรัมป์ก็ได้โพสต์ผ่าน Truth Social ว่า ยูเครนควรข้อเสนอนี้ทันที ซึ่งจะให้ความชัดเจนว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะยุติสงคราม
เซเลนสกีและปูตินไม่ได้พูดคุยกันโดยตรงมาตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อปี 2022