กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า รัสเซียได้ส่งโดรนจำนวน 273 ลำภายในเวลา 08:00 น. ของวันที่ 18 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) โดยมีเป้าหมายในภูมิภาคเคียฟทางตอนกลาง และภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสก์ ( Dnipropetrovsk) กับภูมิภาคโดเนตสก์ ทางตะวันออก
กองทัพอากาศยูเครนระบุว่าสามารถสกัดโดรนได้ 88 ลำ ขณะที่อีก 128 ลำที่บินออกนอกเป้าหมาย โดยไม่มีผลกระทบใด ๆ
อย่างไรก็ตาม การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายในเขตโอบูคีฟ (Obukhiv) ของภูมิภาคเคียฟ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 4 ขวบ
ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีของการรุกรานเต็มรูปแบบ โดยครั้งนั้น รัสเซียส่งโดรนมาด้วยกันทั้งหมด 267 ลำ
ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียระบุว่าสกัดโดรนของยูเครนได้ 25 ลำในช่วงคืนวันที่ 17 พ.ค. ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 18 พ.ค.
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีกำหนดจะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในวันที่ 19 พ.ค. โดยทรัมป์ได้เรียกร้องให้เกิดการหยุดยิง
ก่อนหน้านี้ รัสเซียและยูเครนจัดการเจรจาแบบพบหน้ากันครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมาที่ตุรกี โดยสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการแลกตัวนักโทษ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในประเด็นอื่น