รัสเซียขึ้นบัญชี “แอมเนสตี้” เป็นองค์กรไม่พึงปรารถนา

เผยแพร่ 20 พ.ค. 2568 ,08:51น.

อัยการสูงสุดรัสเซียเผยได้สั่งแบนกลุ่มสิทธิมนุษยชน Amnesty International ฐานเป็นองค์กรที่ไม่พึงประสงค์ และไม่ให้ตั้งสำนักงานในประเทศ

กระทรวงยุติธรรมรัสเซียออกแถลงการณ์ ประกาศให้องค์กรนิรโทษกรรมสากล “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” (Amnesty International) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ มีสถานะเป็น “องค์กรที่ไม่พึงปรารถนา” เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของโครงการต่อต้านรัสเซีย พร้อมทั้งกล่าวหาว่าองค์กรดังกล่าวให้การสนับสนุนยูเครน ซึ่งกำลังทำสงครามกับรัสเซียอยู่

รัสเซียขึ้นบัญชี “แอมเนสตี้ฯ” เป็นองค์กรไม่พึงปรารถนา — วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า แอมเนสตี้เป็นองค์กรที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยกระดับความรุนแรงของการเผชิญหน้าทางทหารในภูมิภาค, สร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายนีโอนาซีและเครือข่าย, เรียกร้องเงินทุนสนับสนุน, และสนับสนุนการโดดเดี่ยวรัสเซีย

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการรัสเซียมักกล่าวหาว่ายูเครนถูกครอบงำโดยพวก “นีโอนาซี” แต่ยูเครน ตะวันตก และประเทศอื่น ๆ มองว่าข้อกล่าวหานี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ไร้เหตุผล

สำหรับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอน โดยทำงานรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนทั่วโลก รวมถึงในนามของผู้ที่แอมเนสตี้กำหนดให้เป็นนักโทษทางความคิด

ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียประกาศให้สถานะ “องค์กรไม่พึงปรารถนา” กับองค์กรหรือหน่วยงานแห่งใดก็ตามที่เห็นว่าทำลายความมั่นคงของชาติ

การให้สถานะนี้เท่ากับเป็นการกดดันให้องค์กรเหล่านี้ต้องยุติการดำเนินงานในรัสเซียไปโดยปริยาย และพลเมืองรัสเซียที่ทำงานให้กับองค์กรหรือหน่วยงานเหล่านี้ มีความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี หรือรับโทษจำคุกเป็นเวลานานถึง 5 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มี.ค. 2023 กระทรวงยุติธรรมรัสเซียประกาศให้องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) เป็น “ตัวแทนต่างชาติ” แต่ยังถือว่า “รุนแรงน้อยกว่า” เมื่อเทียบกับสถานะ “องค์กรไม่พึงปรารถนา”

ส่วนองค์กรที่เคยได้รับสถานะองค์กรไม่พึงประสงค์ ก็คือ สำนักข่าว Radio Free Europe/Radio Liberty ที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ หรือ กรีนพีซ