สวนสัตว์เชสเตอร์ มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ และสำนักงานสุขภาพสัตว์และพืชของสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ต.ค.) ว่า การทดสอบเพื่อพิสูจน์แนวคิดพบว่า วัคซีนมีความปลอดภัยและกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมาก นักวิจัยระบุในรายงานที่เผยแพร่ใน วารสาร “เนเจอร์ คอมมิวนิเคชันส์” (Nature Communications) ว่า นี่คือวัคซีนชนิดแรกของโลกที่พัฒนาขึ้นสำหรับโรคนี้
โดยวัคซีนนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ในสวนสัตว์และศูนย์อนุรักษ์ ขณะเดียวกันก็กำลังมีการพิจารณาทางเลือกในการส่งมอบที่เหมาะสมสำหรับประเทศที่เป็นถิ่นอาศัยของช้าง
ดร.เคที เอ็ดเวิร์ดส์ นักวิทยาศาสตร์ด้านการอนุรักษ์จากสวนสัตว์เชสเตอร์และผู้เขียนงานวิจัยร่วม กล่าวว่า ในแง่ของการนำไปใช้กับลูกช้าง เรามาถึงจุดที่พร้อมแล้ว โดยเราต้องการให้สวนสัตว์อื่นๆ ที่มีช้างที่เสี่ยงต่อโรคนี้สามารถใช้วัคซีนได้ จากนั้นเราก็อยากมองภาพที่ใหญ่ขึ้นด้วย
โรคเฮอร์ปีส์ไวรัสในช้าง หรือ EEHV เป็นโรคที่พบในช้าง สามารถทำให้เลือดออกรุนแรงและทำให้ลูกช้างตายได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังแสดงอาการเคยมีรายงานช้างเอเชีย ตายเพราะโรคนี้ในอินเดีย เนปาล เมียนมา และไทย รวมทั้งในโครงการเพาะพันธุ์เพื่ออนุรักษ์
ช้างเอเชียถูกจัดอยู่ในบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โดยเหลืออยู่ในธรรมชาติไม่ถึง 40,000 ตัว นอกจากนี้ เชื้อไวรัสชนิดนี้ยังถูกตรวจพบในช้างแอฟริกาด้วย เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเพาะเลี้ยงเชื้อ EEHV ในห้องแล็บได้ จึงใช้ชิ้นส่วนเล็กๆ ของไวรัสที่สร้างขึ้นตอนที่ไวรัสจำลองตัวเองในเซลล์ของช้าง ซึ่งชิ้นส่วนนั้นจะฝึกให้ ที-เซลล์ ซึ่งเซลล์ภูมิต้านทาน ค้นหาและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มต้น
เอ็ดเวิร์ดส์กล่าวว่า เรายังต้องเรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสนี้อีกมาก รวมถึงต้องศึกษาเกี่ยวกับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของช้างและวิธีที่ช้างจดจำไวรัส ซึ่งทั้งหมดเป็นการศึกษาในระยะเวลาหลายปี
นักวิจัยระบุว่าขั้นตอนต่อไปจะให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้ลูกช้างที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและลอจิสติกส์ เพื่อกระจายวัคซีนให้ออกมาไปมากขึ้น
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
