สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีที่พลโท เอก ซ็อมโอน (Ek Sam Oun) รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา ส่งจดหมายตอบกลับ พลโทวรยศ เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ โดยมีเนื้อหาปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝั่งไทยที่ให้เตรียมแผนอพยพชาวกัมพูชาออกจาก 3 หมู่บ้านที่ล้ำชายแดนไทย บริเวณพื้นที่ “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว-ตาพระยา” ของ จ.สระแก้ว ภายในวันที่ 7 ต.ค.นี้ มิเช่นนั้นฝ่ายไทยจะไม่เข้าร่วมการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 2
ของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 10-12 ต.ค. 2568 ที่เมืองปอยเปต จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย
จดหมายของ รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา ลงวันที่ 4 ต.ค. 2568 ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างหนักแน่น พร้อมระบุว่า การอพยพชาวบ้านจะละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่มีอยู่ และถือเป็นการทำเกินอำนาจหน้าที่ของ RBC เพราะเรื่องนี้อยู่ภายใต้อำนาจการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC)
จดหมายระบุว่า RBC มีอำนาจเฉพาะในการจัดการกับเหตุการณ์ในพื้นที่ ลดความตึงเครียด และแก้ไขปัญหาในพื้นที่ด้วยวิธีการสันติเท่านั้น จึงไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ในการกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงเส้นแบ่งเขต
พลโท เอก ซ็อมโอน (Ek Sam Oun) รอง ผบ.ภูมิภาคที่ 5 ยังย้ำเตือนแม่ทัพภาคที่ 1 ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเคยตกลงกันในการประชุมสมัยพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดเกาะกง ว่าการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับเขตแดนจะต้องปฏิบัติตามกระบวนการของ JBC และข้อตกลงที่จัดทำไว้ก่อนหน้านี้
ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าในบางพื้นที่พบกรณีพลเมืองไทยเข้ายึดครอง และใช้ประโยชน์จากที่ดินที่อยู่ในเขตแดนของกัมพูชาเช่นกัน ซึ่งสะท้อนว่าสถานการณ์มีความซับซ้อน จึงขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย ใช้ความยับยั้งชั่งใจและเคารพข้อตกลงทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อตกลงที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการกระทำเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น
กัมพูชาขอเรียกร้องให้มีการประชุม JBC ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อหาทางออกอย่างสันติและเป็นทางออกที่ยอมรับร่วมกัน