จากเหตุอาคารของโรงเรียนอิสลามอัลโคซินี โรงเรียนประจำในเมืองซิโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย พังถล่มลงมาเมื่อวันที่ 29 ก.ย. นั้น ล่าสุดวันที่ 6 ต.ค. เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 54 รายแล้ว ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายอีก 13 ราย
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีนักเรียนเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ 97 คนได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บต่าง ๆ และได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่มี 6 คนได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล
หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซียระบุว่า ภัยพิบัติครั้งนี้เป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศในปีนี้ และคาดว่าหน่วยกู้ภัยจะค้นหาผ้สูญหายที่เหลือได้เสร็จสิ้นภายในวันนี้
เจ้าหน้าที่ยังคงตรวจสอบสาเหตุของการพังถล่ม เจ้าหน้าที่บางคนกล่าวว่าอาคารถล่มลงมาเนื่องจากฐานรากไม่มั่นคง
บูดี อิราวัน รองผู้อำนวยการหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยกล่าวในการแถลงข่าวว่า “ในบรรดาภัยพิบัติทั้งหมดในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือไม่ก็ตาม ไม่มีผู้เสียชีวิตมากเท่ากับที่ซิโดอาร์โจ”
โรงเรียนอัลโคซินีเป็นโรงเรียนประจำอิสลามแบบดั้งเดิมในอินโดนีเซียที่รู้จักกันในชื่อเปซันเตรน
เปซันเตรนหลายแห่งดำเนินกิจการอย่างไม่เป็นทางการ โดยไม่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดหรือการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโรงเรียนอัลโคซินีมีใบอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติมหรือไม่
เจ้าหน้าที่กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยมีความท้าทายเนื่องจากอาคารถล่ม ทำให้เหลือเพียงช่องว่างแคบ ๆ ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ
หน่วยกู้ภัยใช้รถขุดขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งสว่านเจาะกระแทก เลื่อยวงเดือน และบางครั้งก็ใช้มือเปล่า ขุดค้นเศษหินหรืออิฐจำนวนมากเพื่อพยายามค้นหานักเรียนที่ยังคงสูญหาย
เรียบเรียงจาก Associated Press / BBC