เมื่อวันที่ 9 ต.ค. รัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอนโยบายใหม่ “ห้ามสายการบินจีนบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียในเส้นทางบินเข้าและออกจากสหรัฐฯ” โดยระบุว่า การลดเวลาบินจากเส้นทางบินดังกล่าวทำให้สายการบินอเมริกันเสียเปรียบ
ข้อเสนอนี้เป็นอีกหนึ่งการยกระดับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และประกาศใช้หลังจากที่จีนได้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมบางส่วนของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา
สายการบินสหรัฐฯ ได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจอนุญาตให้สายการบินจีนใช้น่านฟ้ารัสเซียในเส้นทางบินเข้าสหรัฐฯ มานานแล้ว เนื่องจากทำให้สายการบินจีนได้เปรียบในเรื่องเวลาบินที่ลดลง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลง และลดต้นทุน
รัสเซียได้สั่งห้ามสายการบินสหรัฐฯ และสายการบินต่างชาติอื่น ๆ อีกหลายรายบินผ่านน่านฟ้ารัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ สั่งห้ามเที่ยวบินรัสเซียบินผ่านสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค. 2022 หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน
สายการบินจีนไม่ได้ถูกสั่งห้าม และได้ใช้ข้อได้เปรียบนี้เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเมื่อเทียบกับสายการบินที่ไม่ใช่จีนในเส้นทางบินระหว่างประเทศ
กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ระบุในคำสั่งที่เสนอเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า สถานการณ์ปัจจุบัน “ไม่เป็นธรรมและส่งผลกระทบต่อการแข่งขันอย่างรุนแรงต่อสายการบินของสหรัฐฯ”
กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ เสริมว่า ข้อเสนอปัจจุบันที่จะบังคับใช้ข้อจำกัดการบินผ่านแดนกับใบอนุญาตสายการบินต่างประเทศที่ออกโดยสหรัฐฯ นั้น ไม่ครอบคลุมเที่ยวบินขนส่งสินค้าเพียงอย่างเดียว
การตัดสินใจของกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินบางเที่ยวของสหรัฐฯ ที่ดำเนินการโดยแอร์ไชนา, ไชนาอีสเทิร์น, เซียะเหมินแอร์ไลน์ และไชนาเซาเทิร์น
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ระบุชื่อสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ซึ่งบินผ่านรัสเซียในเส้นทางนิวยอร์ก-ฮ่องกง
เรียบเรียงจาก Reuters