ซุฟมี ดัสโก อาหมัด รองประธานสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียบอกกับรอยเตอร์สเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่า การขึ้นเบี้ยเลี้ยงช่วงปิดสมัยประชุมสำหรับสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นเงินที่มอบให้เพื่อสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ระหว่างที่สภาไม่ได้เปิดประชุม มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงเริ่มต้นการพักสมัยประชุมล่าสุด
ดัสโกระบุว่า สมาชิกรัฐสภาแต่ละคนจะได้รับเงิน 700 ล้านรูเปียห์ (ราว 1.4 ล้านบาท) ต่อการพักหนึ่งครั้ง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้รับ 400 ล้านรูเปียห์ (ราว 790,000 บาท)
โดยสมาชิกรัฐสภา 580 คนของอินโดนีเซียจะมีช่วงพักประมาณปีละ 5 ครั้ง
ดัสโกกล่าวปกป้องการเพิ่มเบื้ยเลี้ยงว่า เบี้ยเลี้ยงดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการคลังอนุมัติไว้ตั้งแต่เดือน พ.ค. จะถูกใช้สำหรับการลงพื้นที่และทำกิจกรรมในเขตเลือกตั้ง ขณะที่อัตราเดิมนั้นคำนวณตามช่วงปี 2019–2024 ซึ่งไม่ได้สะท้อนการปรับขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและค่าขนส่งในปัจจุบัน
ดัสโก ซึ่งเป็นนักการเมืองอาวุโสในพรรคของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ยังระบุด้วยว่า รัฐสภากำลังพัฒนาระบบรายงานแบบดิจิทัลเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งประชาชนจะสามารถเข้าตรวจสอบได้
ทั้งนี้ เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา นักศึกษา กลุ่มสิทธิมนุษยชน และประชาชนหลายพันคน ได้ออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเฉพาะการขึ้นเงินเดือนให้สมาชิกรัฐสภา การประท้วงได้ลุกลามเป็นเหตุจลาจล หลังจากคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนหนึ่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการของตำรวจ
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน 32 จาก 38 จังหวัดของอินโดนีเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 5,000 คน ถือเป็นเหตุความไม่สงบที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศในรอบกว่า 20 ปี
การประท้วงมีชนวนจากความไม่พอใจต่อสวัสดิการที่นักการเมืองได้รับ โดยสมาชิกรัฐสภาแต่ละคนยังมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มอีก 100 ล้านรูเปียห์ต่อเดือน (เกือบ 200,000 บาท) สำหรับค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
หลังเหตุความไม่สงบ รัฐบาลได้ตัดสิทธิประโยชน์บางส่วนออก ทำให้ยอดรวมลดลงเหลือ 65.5 ล้านรูเปียห์
แม้อินโดนีเซียจะเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นสมาชิกกลุ่ม G20 แต่ธนาคารโลกระบุว่าประชาชนหลายสิบล้านคนในประเทศยังคงอยู่ในความยากจน
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
