ศาลประชาชนกลางในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้งของจีน ได้ตัดสินประหารชีวิต 5 สมาชิกระดับสูงของมาเฟียตระกูลไป๋ แก๊งอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลังศูนย์สแกมเมอร์หลายสิบแห่งในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมียนมา ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลปักกิ่ง ในการกวาดล้างปราบปรามขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานของสื่อทางการแห่งรัฐของจีนระบุว่า สมาชิกและพวกพ้องผู้ร่วมขบวนการกับตระกูลไป๋ ทั้ง 21 คน ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมมากมาย ทั้งฉ้อโกง ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และทำร้ายร่างกาย
โดยคำพิพากษาของศาลระบุว่า การกระทำผิดของอาชญากรกลุ่มนี้ส่งผลให้พลเมืองชาวจีนเสียชีวิต 6 ศพ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองอีก 1 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน
ผู้ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตได้แก่ ไป๋ ซั่วเฉิง หัวหน้าแก๊ง และไป๋ อิงชาง ลูกชาย ส่วนอีก 3 คนคือ หยาง หลี่เฉียง, หู เสี่ยวเจียง และ เฉิน กวงอี้
นอกจากนี้ ยังมีจำเลย 2 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยให้รอลงอาญา อีก 5 คนถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และอีก 9 คนรับโทษจำคุกตั้งแต่ 3 - 20 ปี
สำหรับตระกูลไป๋เป็นหนึ่งในแก๊งมาเฟียไม่กี่กลุ่มที่ก้าวขึ้นมามีอำนาจในช่วงทศวรรษที่ 2000 และเปลี่ยนเมืองเล้าก์ก่ายอันยากจนให้กลายเป็นศูนย์กลางของบ่อนกาสิโนและซ่องโสเภณีมั่งคั่ง
อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวได้หันมาทำธุรกิจหลอกลวง นำผู้ตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์หลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่ถูกหลอก ทำร้ายร่างกายและบังคับให้ฉ้อโกงผู้อื่น
ทั้งนี้ แก๊งอาชญากรกลุ่มนี้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการหลอกลวง 41 แห่งในภูมิภาคโกก้างของเมียนมา เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวงทางไซเบอร์และบ่อนกาสิโน เกี่ยวข้องกับเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลกว่า 29,000 ล้านหยวนหรือกว่า 1.32 แสนล้านบาท
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
