ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ในฐานะโฆษกกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจาก การท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ว่า ช่วงสงกรานต์ปีนี้ 11- 17 เมษายน 2561 จะมีผู้โดยสาร ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น คาดการณ์ว่า จะมียอดผู้โดยสารเข้าออกประเทศ โดยเฉพาะสุวรรณภูมิสูงสุดประมาณ 160,000 คน จากปกติวันละ 120,000 คน อัตราเฉลี่ยจะมีเที่ยวบินสูงถึงวันละเฉลี่ย 817เที่ยวบิน รองลงมาเป็นดอนเมือง วันละประมาณ 301 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณเกือบวันละ 55,000 คน ส่วนภูเก็ตเฉลี่ยวันละ 200 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณวันละ 35,000 คน
โดยเฉพาะปีนี้เชื่อว่าการท่องเที่ยวในไทยจะคึกคักเป็นพิเศษ สืบเนื่องจากการรณรงค์การท่องเที่ยววิถีไทย และกระแสนิยมไทย โดยเฉพาะการแต่งกายย้อนยุคเล่นสงกรานต์ที่โด่งดังจากละครบุปเพสันนิวาส ติดอันดับไปถึงในต่างประเทศ
พ.ต.อ.เชิงรณ ยังเปิดเผยอีกว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 มีความห่วงใยในสถานการณ์ที่มีปริมาณเที่ยวบินขึ้นลงในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทั้งบริเวณ สุวรรณภูมิ และภูเก็ต(ขาออก)เป็นพิเศษ เนื่องจากปัจจุบัน พื้นที่โถงช่องตรวจหนังสือเดินทาง โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีปริมาณพื้นที่รองรับผู้โดยสารจำกัด ในขณะที่มีปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สมดุลกัน จึงอาจส่งผลให้มีภาพผู้โดยสารสะสมในโถงรอรับการตรวจหนังสือเดินทาง ในช่วงเที่ยวบินหนาแน่นและเป็นไปได้ว่าจะมีผู้โดยสารบางส่วนรอรับการตรวจเกินกว่า 1 ชั่วโมง แม้เจ้าหน้าที่จะนั่งเต็มทุกช่องตรวจ และใช้เวลาตรวจตามขั้นตอนกฏหมาย 7 ขั้นตอนไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน แล้วก็ตาม
เบื้องต้นผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้เรียกประชุม หัวหน้าด่านตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสนามบิน กำหนดมาตรการเข้มสั่งกำชับ ตม.ทุกสนามบิน โดยได้ซักซ้อมแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกด้านพิธีการคนเข้าเมืองช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1 - 20 เม.ย 2561 เพื่อรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงและการอำนวยความสะดวกในงานตรวจคนเข้าเมือง สำหรับด่าน ตม.สนามบิน ทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่
โดยได้จัดกำลังพล เสริมเวร ในช่วงเที่ยวบินหนาแน่นอย่างเต็มกำลังในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น ทั้งยังมีกำลังเสริมจาก จนท.ตม.ทุกฝ่ายมาช่วยอำนวยความสะดวก และช่วยตรวจคัดกรองเอกสาร อีกทั้งคอยช่วยอำนวยความสะดวกแก่ เด็กเล็ก สตรี คนชรา คนพิการ ให้เข้ารับการตรวจแบบ priority เพื่อบรรเทาปัญหาในช่วงหนาแน่น ซึ่งในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา สามารถแก้ปัญหาให้เกิดการระบายได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
สำหรับผู้โดยสารคนไทย ที่เดินทางกลับบ้านในช่วงดังกล่าว ขอประชาสัมพันธ์ให้ใช้ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Autometic Channel ซึ่งจะใช้เวลาตรวจคนละไม่เกิน 20 วินาที ซึ่งผู้โดยสารคนไทยสามารถเข้ารับการตรวจที่ช่องตรวจหนังสือเดินทางทุกช่องตรวจ
นอกจากนี้ ได้ประสานความร่วมมือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการ เพื่อให้มีการบริหารจัดการ passenger flow อย่างเป็น ระบบ เช่นการท่าอากาศยาน AOT ได้จัดเจ้าหน้าที่มาช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจและกรอกข้อมูลในเอกสารสำคัญก่อนเข้ารับการตรวจ และสายการบินต่างๆ ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้เดินทางในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น
ทั้งนี้ ทาง บก.ตม.2 ได้แนะนำให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางหรือออกประเทศ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต จัดเตรียมความพร้อมของเอกสารการเดินทาง ทั้งบัตรที่นั่ง การกรอกข้อมูล Immigration card(เฉพาะชาวต่างชาติ) รวมถึงหนังสือเดินทางที่มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งเป็นข้อกำหนดตามมาตรฐาน ICAO)ให้ครบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เสียเวลา ในการเข้ารับการตรวจ โดยควรเผื่อเวลา ทั้งเวลาในการ เช็คอินจากสายการบิน ทั้งเวลาในการตรวจค้นตามมาตรฐานความปลอดภัยสากลของ ICAO จาก พนักงาน รปภ.การท่าอากาศยาน AOT และเวลาในการเข้าตรวจหนังสือเดินทางจาก จนท.ตม. โดยควรเผื่อเวลา จากเดิม 2 ชั่วโมงเป็นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง