อึ้ง! พบสารพิษตกค้าง ผัก-ผลไม้ เกินมาตรฐาน 41% ในห้างเยอะสุด

วันนี้ (27 มิ.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช แถลงผลการตรวจผักและผลไม้ประจำปี 2562 โดยร่วมมือกับองค์กรภาคีต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานราชการและภาคประชาสังคม ในจังหวัดต่าง ๆ โดยเก็บตัวอย่างทั้งหมด 286 ตัวอย่าง จากห้างค้าปลีก ตลาดสดทั่วไปในกรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ขอนแก่น ,ยโสธร ,สระแก้ว ,จันทบุรี ราชบุรี และ สงขลา ครอบคลุมผัก 15 ชนิด และ ผลไม้ 9 ชนิดที่นิยมบริโภคทั่วไป โดยส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO-17025 ในประเทศสหราชอาณาจักร พบว่า ผักผลไม้มีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานสูงถึง 41 เปอร์เซ็นต์

พบสารเคมี “พาราควอต” ตกค้างในผัก-ผลไม้

โดยผักที่พบสารพิษตกค้างเกินค่ามาตรฐานมากที่สุดคือ ผักกวางตุ้ง คะน้า กะเพรา พริก และกะหล่ำดอก ส่วนผลไม้ที่พบการตกค้างมากที่สุดได้แก่ ส้ม, ชมพู่ , ฝรั่ง, องุ่น และมะละกอสุก หากเปรียบเทียบระหว่างผักและผลไม้ที่ปลูกในประเทศกับนำเข้าพบว่า นำเข้ามีการตกค้าง 33.3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ผลิตในประเทศไทย พบสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานสูงถึง 48.7 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเปรียบเทียบผักและผลไม้ที่ขายให้ห้างค้าปลีก ซึ่งประชาชนต้องซื้อในราคาสูงกว่าผักและผลไม้ในตลาดทั่วไปหลายเท่า โดยพบว่า ผักและผลไม้ในห้างค้าปลีกมีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานมากกว่าตลาดสด สูงถึง 44 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ในตลาดสดพบ 39 เปอร์เซ็นต์

กรมวิทย์ฯ เผยพบสารตกค้างใน “ส้ม” มากที่สุด

สำหรับสารพิษกำจัดศัตรูพืชที่ไทยแพน ตรวจพบว่าตกค้างมากที่สุดคือ สารฆ่าเชื้อรา คาร์เบนดาซิม (carbendazim) ซึ่งไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในสหรัฐอเมริกานานกว่าทศวรรษ เพราะมีผลต่อระบบสืบพันธุ์ แต่กลับพบการตกค้างในผักและผลไม้ถึง 57 ตัวอย่าง รองลงมาคือ ไซเปอร์เมทริน อิมิดาคลอร์ฟริด เอซอกซิสโตรบิน และคลอร์ไพริฟอส ซึ่งเป็นสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนการสมองของเด็ก และนอกเหนือจากนี้ ยังพบสารพิษกำจัดศัตรูพืชที่ยกเลิกการใช้ไปแล้ว