“แจ๊ส” ยัน ไม่มีปัญหาเก่า กับคนข้างบ้าน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

จากกรณีคนงานบ้าน แจ๊ส ชวนชื่น มีปัญหาทะเลาะวิวาทและถูกทำร้ายจนเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ ล่าสุด วันนี้ "แจ๊ส ชวนชื่น" เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ว่าไม่มีเหตุจูงใจเรื่องของการไม่กินเส้นกันมาก่อน พร้อมขอความเป็นธรรมให้ตำรวจดำเนินคดีผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด

 

หลัง "แจ๊ส ชวนชื่น" หรือ "นายผดุง ทรงแสง นักแสดงตลกชื่อดัง" พร้อมด้วย นางสาวปุณณาสา พรหมยศ ภรรยา และ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เดินทางเข้าให้ข้อมูลกรณีกับตำรวจ หลังคนงานที่บ้านทะเลาะวิวาทกับ คนข้างบ้านจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้น แจ๊ส ชวนชื่น ยืนยันว่า ระหว่างเกิดเหตุเมื่อคืนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะติดงานคอนเสิร์ต แต่ทราบเรื่องทั้งหมดทางโทรศัพท์จากภรรยา และรู้สึกสงสารผู้เสียชีวิตที่ยังมีลูกเล็ก จึงเดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เพื่อทวงความเป็นธรรมให้

แจ๊ส ชวนชื่น เปิดเผยหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่ยอมรับว่า คนในบ้านที่ก่อเหตุชอบส่งเสียงดัง และเคยด่าทอแม่ยายของตัวเองก่อนหน้านี้ จากปัญหาเล็กๆน้อยๆที่กระทบกระทั่งกันจากการที่บ้านอยู่ติดกัน แต่ทั้งหมดก็อดทนมาตลอดเป็น 10 ปี เพราะไม่อยากมีเรื่อง เนื่องจากตัวเองเป็นบุคคลสาธารณะ อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ปัญหาก่อนหน้านี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการตายของลูกจ้างเมื่อคืน

แจ๊ส ชวนชื่น บอกว่า หลังจากนี้ทุกคนในบ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด  เพราะในช่วงเกิดเหตุ ยังมีการหาเรื่อง ป้าของแจ๊ส ชวนชื่น ซึ่งกำลังนั่งอยู่ภายในรถ โดยมีเจตนาทำลายรถคันที่ป้าของแจ๊สนั่งอยู่ภายใน โดยการโยนขวดที่ภายในบรรจุของเหลวคล้ายน้ำมันมาใส่ พร้อมกับทุบรถคันดังกล่าว

ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายนอกบ้าน แจ๊ส ชวนชื่นอ้างว่า ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากถูกหนูกัดได้รับความเสียหาย จึงไปขอภาพวงจรปิดในจุดใกล้เคียงกันมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแทน

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ระบุว่า การเสียชีวิตของ นายพรชัย ดีเสือ อายุ 35 ปี คนงานบ้าน แจ๊ส ชวนชื่น ไม่ได้เกิดจากการทะเลาะวิวาทมาก่อน แต่เพื่อนของผู้ตาย เกิดอุบัติเหตุรถชนกับผู้ก่อเหตุมาก่อนหน้า นายพรชัย จึงเดินไปหาผู้ก่อเหตุที่บ้านเพื่อช่วยเจรจาปัญหาให้ จึงทำให้ผู้ตาย ถูกทำร้ายจากทั้งกระถางต้นไม้  ท่อนไม้ และปืนไทยประดิษฐ์ ซึ่งเตรียมส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

อีกด้านหนึ่งที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ยังมีนายยศเฉลิม มณีคำ อายุ 41ปี คนขับรถยนต์คันที่ถูกผู้ต้องหาชนได้รับความเสียหาย เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม โดยยืนยันว่า ไม่รู้จักกับ นายเสฎฐวุฒิ มาก่อน แต่หลังจากเกิดเหตุรถชน ได้โทรศัพท์ไปบอกกับ "นายพรชัย" ที่เป็นผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ว่ารถคันที่ชนรถของตัวเอง ขับหนีเข้ามาทางหมู่บ้านเดียวกับที่ นายพรชัย พักอยู่  และไม่รู้ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันจนเสียชีวิต ซึ่งตนเองก็ยืนรอเจ้าหน้าที่ประกันภัยอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ

ขณะที่ นายประสานต์ หงษ์ทอง อายุ26ปี ที่นั่งคู่ไปกับนายยศเฉลิม ให้ข้อมูลว่า นายเสฎฐวุฒิ ขับรถมาขวางอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดเหตุรถชน  ขณะนั้นนายพรชัยผู้เสียชีวิต เห็นเหตุการณ์ก็เลยขับรถมาดู และขับรถตามนายเสฎฐวุฒิ ที่ขับหนีเข้ามาในหมู่บ้าน จากนั้นก็เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน

ขณะที่ยังจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ นายษิทรา จะประสานงานตำรวจคุ้มครองความปลอดภัยคนในบ้านของ แจ๊ส ชวนชื่น เพราะมีแต่ผู้หญิงและเด็ก ส่วนการติดตามจับผู้ก่อเหตุ พันตำรวจเอกคมกฤษณ์ คำบุศย์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนา ขออนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี เบื้องต้นทางตำรวจได้ประสานกับทางญาติเรียบร้อยแล้ว และญาติรับปากว่า จะติดต่อขอพาผู้ต้องหาเข้ามอบตัว

 

ทุบหัวคนงานบ้าน “แจ๊ส ชวนชื่น” ดับ

 

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ