เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.62) นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 - มิถุนายน 2562) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,937,146 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 102,959 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 61,974 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.3
โดยแบ่งเป็นผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรที่สูงกว่าประมาณการ 55,181 ล้านบาท หรือราว 3.9%, การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น 36,500 ล้านบาท หรือสูงกว่าประมาณการ 32.5%, รายได้ของรัฐวิสาหกิจที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น 15,410 ล้านบาท หรือสูงกว่าประมาณการ 11.5%, และการจัดเก็บรายได้กรมศุลกากรที่สูงกว่าประมาณการ 6,731 หรือคิดเป็น 9.0% ตามลำดับ
สิ้นไตรมาส 3 ปี’62 รัฐบาลถลุงเงินแล้ว 2.33 ล้านล้านบาท เกินเป้า 0.98%
"ประยุทธ์"เข้ากลาโหมวันแรก จ่อขอซื้อเรือดำน้ำเพิ่ม
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับคาดการณ์รายได้รัฐบาลสุทธิที่กระทรวงการคลังได้จัดทำสำหรับการติดตามและประเมินสถานการณ์การจัดเก็บรายได้จากที่เคยคาดการณ์ไว้ ณ เดือน มิ.ย. 62 โดยพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจและตัวแปรที่ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาล พบว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 62 สูงกว่าคาดการณ์ จำนวน 6,511 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 โดยการจัดเก็บรายได้ของทุกหน่วยงานใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ กระทรวงการคลังจะติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“ไทย” ได้รับอนุมัติซื้อรถหุ้มเกราะ “สไตรเกอร์” จากสหรัฐฯ มูลค่า 5,400 ล้านบาท
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 62 ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,943,545 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 2,355,488 ล้านบาท ขณะที่รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 300,978 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 62 มีจำนวนทั้งสิ้น 497,375 ล้านบาท