ขนส่ง พบรถตู้มรณะตัด GPS ก่อนเข้าสระแก้ว - วิ่งเร็วเกินกำหนด 6 ครั้ง ใน 3 จังหวัด
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
ขนส่งสระแก้ว ตรวจพบรถตู้มรณะตัดสัญญาณ จีพีเอส ตั้งแต่วิ่งเข้าเมืองสระแก้ว จนถึงจุดเกิดเหตุ ซ้ำใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดถึง 6 ครั้ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมเคลื่อนย้ายศพรอเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว เข้าตรวจสอบ

เมื่อวันที่ (19 ส.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีรถตู้รับจ้างเอกชนซึ่งเป็นของ หจก.นาวินทราเวล 2016 หมายเลขทะเบียน 34-0405 กรุงเทพมหานคร ที่ได้นำผู้โดยสารชาวลาว เดินทางจากกรุงเทพมหานคร เพื่อไปประทับตราหนังสือเดินทาง ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.เขาสอยดาว จ.จันทบุรี จนเกิดเหตุพุ่งชนประสานงากับรถพ่วง 18 ล้อ บนถนนสายสระแก้ว-จันทบุรี พื้นที่ ม.1 บ้านวังใหม่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 เลน เป็น 4 เลน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระแก้ว ได้ทำการ เคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ให้เข้าตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนซากรถตู้ที่ประสบอุบัติได้ถูกเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุแล้วเช่นกัน
ด้านนายสุริยา ชูเชิด นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสระแก้ว และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยสาขาสระแก้ว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เกิดพร้อม พบว่า จากการตรวจรถตู้โดยสารคันดังกล่าวมีติดตั้งระบบจีพีเอส (GPS) ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็พบว่าสัญญาณจะแสดงเป็นบางช่วงเท่านั้น โดยความเร็วที่ตรวจสอบได้ครั้งสุดท้ายอยู่ที่บริเวณสี่แยกสระขวัญ เข้าถนนสายสระแก้ว-จันทบุรี มีความเร็วอยู่ที่ 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่สัญญาณจีพีเอส จะหายไปเป็น 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการตัดระบบจีพีเอสออก ขณะที่รถใช้ความเร็ว
ทั้งนี้ ศูนย์บริหารจัดการการเดินรถ กรมการขนส่งทางบก รายงานการการตรวจสอบจีพีเอส จากอุบัติเหตุดังกล่าวว่า รถตู้ที่ประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีการติดตั้งระบบจีพีเอส กับ บริษัท ไทยจีพีเอส แทรกเกอร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด โดยมีเส้นทางเดินรถเริ่มต้นทางจากแขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร มายังจุดเกิดเหตุ ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว และในช่วงเวลาเกิดเหตุมีความเร็วอยู่ 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่พบความเร็วก่อนเกิดเหตุที่ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นยังไม่พบการแสดงตัวผู้ขับ แต่พบความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถึง 6 ครั้งในช่วงที่วิ่งผ่าน 3 จังหวัด ประกอบด้วย ความเร็ว 92 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเวลา 02.50 น. - 02.54 น. ที่ จ.ปราจีนบุรี, ความเร็ว 92 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเวลา 02.59 น. - 03.05 น. ที่ จ.ฉะเชิงเทรา, ความเร็ว 92 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเวลา 03.15 น. - 03.18 น. ที่ จ.ปราจีนบุรี และครั้งที่ 6 ความเร็ว 92 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อเวลา 03.59 น. - 04.03 น. ที่ จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ รถตู้คันดังกล่าวออกจากกรุงเทพมหานครเมื่อเวลา 23.11 น.ของวันที่ 17 ส.ค. และเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 04.06 น. วันที่ 18 ส.ค. 2562 ส่วนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อคู่กรณีตรวจสอบจีพีเอา พบเดินทางออกจาก ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 04.00 น. โดยใช้ความเร็วก่อนเกิดเหตุที่ 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อเวลา 04.04. น. ช่วงเกิดอุบัติเหตุใช้ความเร็วที่ 37 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้าน นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยภายหลังเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และเร่งให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บตามหลักมนุษยธรรม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้น ตนสั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะผู้กำกับโดยตรง เข้มงวดกวดขัน ตรวจสอบมาตรฐานรถโดยสารสาธารณะ ทุกประเภทอย่างเข้มงวดมากขึ้น บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด ต้องกล้าพัก ใช้ใบอนุญาตในกรณีที่รถบริการสาธารณะ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขกฎหมาย ในการยกเลิกใบอนุญาตผู้ให้บริการทั้งผู้ประกอบการ และคนขับ หากไม่พร้อมก็อย่ามาให้บริการ หลังจากนี้หากรถทุกประเภทเกิดอุบัติเหตุ ตนได้สั่งการให้มีบทลงโทษเฉพาะข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพของรถด้วย
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้