นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ระบุว่าไตรมาสนี้มีความเคลื่อนไหวและสถานการณ์ทางสังคมที่น่าสนใจหลายด้าน โดยเฉพาะการจ้างงานลดลง 0.3% โดยภาคเกษตรลดลงต่อเนื่อง แต่นอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบถึงกิจกรรมภาคเกษตรและรายได้ในระยะต่อไปเช่นเดียวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจตามการหดตัวของภาคส่งออกและการท่องเที่ยว ที่อาจส่งผลต่อการจ้างงานในช่วงข้างหน้านี้ด้วย ส่วนหนี้ครัวเรือนซึ่งคิดจากไตรมาสที่ 1 ปี 2562 พบว่าหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 6.3% อยู่ที่ 12.97 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 78.7% ต่อจีดีพี ใกล้แตะภาวะวิกฤตที่ระดับ 80% ต่อจีดีพี สูงสุดเป็นอันดับ 11 จาก 74 ประเทศทั่วโลก ซึ่งยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจ และหนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิด
หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 85
สศช.ย้ำเศรษฐกิจไทยยังไม่น่าเป็นห่วง จีดีพีปีนี้ 3.3 -3.5 %
ทั้งนี้ทางสภาพัฒน์ ย้ำว่าหากหนี้ครัวเรือนยังขยายตัวต่อเนื่องอาจส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป แต่มาตรการทางเศรษฐกิจที่ออกมาจะไม่เป็นการเร่งให้การก่อหนี้เกิน 80% ของจีดีพี ส่วนจีดีพี 3% ในปีนี้ขึ้นอยู่กับการส่งออก ท่องเที่ยว และภาคเกษตรเป็นหลัก
ด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพ ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ดูยอดค้างหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในการอุปโภคบริโภคในไตรมาส 2 มีมูลค่าสูงถึง 127,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นสัดส่วน 2.74% ต่อสินเชื่อรวม และ 2.75% ต่อ สถิติยอดคงค้างสินเชื่อที่ไม่ก่อให่เกิดรายได้ หรือ NPLs
สำหรับตัวเลขการจ้างงานลดลงเล็กน้อยที่ 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้มีงานทำภาคเกษตรยังลดลงต่อเนื่องที่ 4% มีสาเหตุจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อกิจกรรมการเกษตร ขณะที่ผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งสาขาที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นได้แก่ สาขาการขนส่งการเก็บสินค้า การก่อสร้าง การศึกษา และสาขาโรงแรมและภัตตาคาร ส่วนสาขาที่มีการจ้างงานลดลง ได้แก่ สาขาการค้าส่ง/ค้าปลีก และสาขาการผลิต ซึ่งสอดคล้องกับภาคการส่งออกที่หดตัว ส่งผลให้อัตราการว่างงานเท่ากับ 0.98% เพิ่มขึ้นใกล้เคียง 0.92% ในไตรมาสที่ผ่านมา