กรณีอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ที่ ต.เมืองฝาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ข่มขืน ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ตั้งแต่ปี 2558 หรือ 5 ปีที่ผ่านมา จนเด็กอายุได้ 18 ปี และเรื่องมาแดงขึ้นเพราะเด็กตั้งท้องได้ 5 เดือน ต่อมาแม่แจ้งความเอาผิดและรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน ก่อนจะขอจ่ายค่าเสียหาย 150,000 บาท แล้วไปเก็บข้าวของออกจากวัด ไปหาจำวัดที่อื่น
ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อเดินทางไปยังบ้านของผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ ก็ได้พบกับนางแดง (นามสมมติ) ผู้เป็นยาย และ น.ส.บี ผู้เสียหาย โดยคุณยายแดง บอกว่า ระยะหลังสังเกตเห็นว่าหลานเริ่มมีอาการผิดปกติ ไม่เห็นขอเงินไปซื้อผ้าอนามัยติดต่อกัน 2 – 3 เดือน ก็เลยโทรไปบอกแม่ของหลาน จากนั้นลูกสาวก็เดินทางกลับมาบ้าน เค้นถามลูกสาวจนลูกยอมรับว่าตั้งท้องกับเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว เพราะถูกพระข่มขืนมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2
ด้าน พ.ต.ท.สำราญ แสงรัมย์ รองผกก.(สอบสวน)สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนที่แม่ของเด็กมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กล่าวหาเจ้าอาวาส ตอนนั้นเด็กอายุเกินกว่า 18 ปีแล้ว ประกอบกับแม่เล่าเรื่องไม่หมดโดยเฉพาะการมอมยา โดยหลังมีการเจรจากันเจ้าอาวาสยอมจ่ายเงินเยียวยา 1.5 แสนบาท แล้วแม่เด็กยอมถอนแจ้งความ ซึ่งทั้งหมดเป็นการตกลงกันระหว่างเจ้าอาวาสกับผู้เสียหายตำรวจก็ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยในทางคดีอาญา ไม่สามารถดำเนินการได้แล้ว เพราะแม่เด็กกับเด็กยอมถอนแจ้งความ เนื่องจากเด็กอายุเกิน 18 ปีสามารถถอนคำร้องทุกข์ได้ ส่วนพระรูปดังกล่าว จะสึกหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะสงฆ์ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันแล้ว
ขณะที่ นายสมพงษ์ หมวดไธสง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าอาวาส ให้การรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวนในทางปฏิบัติคือพระจะต้องสึกสถานเดียวตามมติของคณะสงฆ์ โดยหลังคณะสงฆ์มีมติ พระรูปดังกล่าวได้ขอไปเก็บข้าวของส่วนตัวภายในวัดก่อน แต่ไม่กลับไปสึกตามสัญญา แล้วหายตัวไปช่วงกลางดึก เบื้องต้นจากข้อมูลเจ้าอาวาส อาจจะหนีไปที่จ.สระบุรี โดยหลังจากนี้จะแจ้งไปยังสำนักพุทธทั่วประเทศว่าไปจำอยู่วัดไหน หากพบตัวให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาดำเนินคดีซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนในทางสงฆ์จะต้องมีการลาสิขาอย่างเดียวตามพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรงเพราะเป็นการเสพเมถุน