ธนาคารดัง ยอมรับ พนง.ยักยอกเงิน “เฮียหมา” กว่า 5 ล้าน
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พา นางฮวย ศรีวิรัตน์ อาม่าวัย 76 ปี ที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ นั่งรถเข็นวิลแชร์ เดินทางไปที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องคดีแพ่งกับลูกแท้ๆของอาม่า และแบงก์เอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง รวมทั้งพนักงานแบงก์ดังกล่าว กรณีปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม หลังก่อเหตุลักลอบเอาเงินออกจากกองทุนของอาม่า ไปกว่า 250 ล้านบาท จนหมดเกลี้ยง พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายจากธนาคาร เป็นเงินจำนวนกว่า 350 ล้านบาท
ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า หลานสาวเล่าให้ฟังว่า อาม่ามีลูกทั้งหมด 2 คน เป็นลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็ก
ซึ่งอาม่าทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตโครงคอมเพลสเซอร์แอร์ มีเงินเก็บอยู่ในธนาคารกว่า 250 ล้านบาท และปกติจะเป็นคนดูแลเรื่องการเงินเองคนเดียว แต่แล้วเมื่อต้นปี 2557 มีอาการป่วยติดเตียง ลูกสาวที่มักเป็นคนขับรถพาไปทำธุรกรรมต่างๆ ได้ไปยื่นขอเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงินกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย ทั้งหมด 3 บัญชี
จากเดิมที่อาม่าต้องเซ็นต์ชื่อเอง กลับเปลี่ยนเป็นปั้มลายนิ้วมือ และมอบอำนาจให้ลูกสาวทำธุรกรรมแทน จากนั้นก็เบิกถอนเงินไปจนหมด เมื่ออาม่าไปทวงคืนก็ไม่ได้ แถมยังทะเลาะกันหนัก ซึ่งล่าสุดไม่สามารถติดต่อกับลูกสาวได้แล้ว วันนี้อาม่าจึงเดินทางมาใช้สิทธิ์เรียกทรัพย์คืน
ขณะที่นางสาวมินตรา ศรีวิรัตน์ หลานสาวของอาม่า เปิดเผยว่า อาม่าได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่ต้นปี 2556 ด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีและนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน โดยมีอาการมือเท้าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งได้รับการดูแลจากลูกสาวของอาม่าภายหลังออกจากโรงพยาบาล
จนกระทั่งปี 2559 พ่อของตนเองซึ่งเป็นลูกชายคนโตของอาม่า ไปพบว่าอาม่า อาการไม่ดีขึ้นและมีความประสงค์ที่จะมาอยู่ที่บ้านของพ่อ จึงได้นำกลับมารักษาตัวจนอาการดีขึ้น ต่อมาอาม่าได้ตรวจสอบตู้นิรภัยซึ่งเป็นที่เก็บสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารและกองทุนบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆของธนาคารแห่งหนึ่งพบว่า จำนวนเงินในบัญชีได้หายไปรวมกว่า 250 ล้านบาท
เบื้องต้นทางศาลแพ่งได้นัดให้คู่กรณีทั้งสองฝ่าย มาไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ และนัดให้สืบพยานเพิ่มเติมวันที่ 19 มกราคมปีหน้า
ศาลฯ อนุมัติหมายจับทนายโกงเงินน้องบีมแล้ว