ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณี กทม.เตรียมให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยกลับมาขายบนทางเท้า ว่า สาเหตุที่ต้องออกมาแถลงข่าวทำความเข้าใจ เพราะมีการเข้าใจผิดคิดว่า กทม.จะให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยกลับมาขายบนทางเท้าทั้งหมด ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงว่า กทม.มีนโยบายจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยนั้น ไม่ใช่การกำจัดผู้ค้า หรือประกาศสงครามกับผู้ค้า เพราะถือว่าเป็นพี่น้องชาวกรุงเทพเช่นกัน แต่ประเด็นสำคัญ คือ การจัดระเบียบเพื่อให้คนเดินบนทางเท้าได้ เพราะทางเท้าเป็นสิทธิของทุกคน ดังนั้น ที่ผ่านมาจึงมีการเคลื่อนย้ายผู้ค้าที่ขวางทางเท้าไปตามที่ต่างๆ ที่จัดหาให้ เพราะหากไม่ทำอะไรเลยสุดท้ายคนก็จะต้องไปเดินบนถนนและอาจถูกรถชนได้
กทม.เตรียมยกเลิกผ่อนผันหาบเร่แผงลอย 175 จุด
กทม.ขอคืนทางเท้า อนุญาตเฉพาะ “ข้าวสาร-เยาวราช”
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า หลังจากจัดระเบียบให้ทางเท้ามีความสวยงาม ทุกคนสามารถเดินได้อย่างเท่าเทียม มีความปลอดภัย ก็จะพิจารณาให้ผู้ค้ากลับมาขายได้ ซึ่งจะไม่ได้ทำเป็นจุดผ่อนผันเหมือนเดิม แต่ทำเป็นการพัฒนาเมืองในรูปแบบทางเท้าที่สามารถใช้ร่วมกันได้ โดย กทม.จะมีการสำรวจทางเท้าต่างๆ ว่า พื้นที่ไหนมีความเหมาะสมที่จะให้ค้าขายได้ โดยทางเท้าจะต้องกว้างขวางมากพอ แต่ความกว้างเป็นเท่าไรนั้นยังไม่ได้สรุปตัวเลขที่ชัดเจน เพราะต้องคำนึงถึงสถานที่จริง ซึ่งมีต้นไม้และเสาไฟฟ้าด้วย และทางเท้าแต่ละแห่งก็ไม่ได้เท่ากันทั้งหมด หรืออาจเป็นพื้นที่ใกล้ออฟฟิศ เพื่อให้พนักงานสามารถมาซื้อของได้ในราคาไม่แพง เป็นต้น
หลังจากได้พื้นที่แล้วจะพิจารณาว่า ผ่านหลักเกณฑ์ 3 เรื่องที่จะให้ค้าขายหรือไม่ คือ 1.ต้องไม่กระทบคนเดินเท้า ซึ่งรวมถึงผู้พิการทางสายตาและการเคลื่อนไหวด้วย 2.ไม่มีการเก็บหัวคิว และ 3.มีความสะอาดและสวยงาม ซึ่งจะให้ผังเมืองมาช่วยในการออกแบบตกแต่งหน้าร้าน ไม่มีการล้างจานบนทางเท้า หรือเทไขมันลงท่อระบายน้ำอีกต่อไป เพื่อรักษาความสะอาด หากผ่านเกณฑ์ทั้งหมดก็จะให้ขายได้ ซึ่งทั้งหมดน่าจะมีความชัดเจนหลังปีใหม่ 2563
"ที่ผ่านมาจุดผ่อนผันใครๆ ก็มาขายได้ แต่คนจนไม่ได้ขาย เพราะมีกระบวนการของมาเฟียในการจัดหัวคิว คนมาขายได้ต้องขอคนนี้ก่อน คนจัดหัวคิวได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้น เมื่อมีการจัดระเบียบ ยกเลิกจุดผ่อนผัน หากจะกลับมาขายก็ต้องเริ่มกระบวนการใหม่เช่นกัน ต้องมีระเบียบกฎเกณฑ์ ซึ่งหากพื้นที่เหมาะสมและผ่านเกณฑ์ 3 เรื่อง เราก็จะขออนุญาตจาก บช.น.ในการให้กลับมาขาย โดยเราจะให้ความสำคัญกับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบในพื้นที่นั้นก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับสิทธิทั้งหมด ก็ต้องดูตามความเหมาะสม เพราะบางคนเมื่อจัดระเบียบแล้วไปสถานที่ใหม่ที่ กทม.จัดให้ ปรากฏว่ามีรายได้ดีกว่า ก็คงไม่ได้อยากกลับมา เป็นต้น" ร.ต.อ.พงศกรกล่าว
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า เมื่อได้ความชัดเจนในพื้นที่แล้ว อาจจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ด้วยทั้งนี้ ข้อย้ำว่า หากการค้าขายกระทบสิทธิคนเดินทางเท้า หรือไม่มีการรักษาความสะอาด ผู้ค้าไม่ช่วยดูแลรักษาความสะอาดระหว่างกันเองด้วย ก็จะยกเลิกพื้นที่ให้ขายทันที ซึ่งก็ถือว่าเป็นการพบกันครึ่งทาง
กทม.จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ปากคลองตลาด ดีเดย์ 29 ก.พ. นี้ "คืนทางเท้า"