พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แถลงจับกุมนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือ "โกโต้ง" อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาภาคใต้ หลังถูกออหมายจับได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านญาติย่านถนนรามอินทรา กรุงเทพฯ และติดต่อเข้ามอบตัวในวันนี้ (18 พ.ค. 58) ขณะที่ นายปัจจุบันได้ขอให้การในชั้นศาล พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ก่อนคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่ จ.สงขลา
ด้าน พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 แถลงความคืบหน้าของคดี โดยล่าสุดศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 ราย ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นตำรวจ จ.สุราษฎร์ธานี 1 นาย และ จ.ระนอง 1 นาย อีกรายเป็นภรรยาโกโต้ง รวมหมายจับที่ออกไปแล้ว 65 หมายจับ ควบคุมตัวได้แล้ว 30 ราย นอกจากนั้นพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล คาดว่าจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก
เจ้าหน้าที่ ปปง.ได้ยึดทรัพย์ผู้ต้องหา 15 คน และเครือข่ายอีก 37 คน รวม 52 คน อายัดทรัพย์สินไปตรวจสอบ 156 รายการ มูลค่าทรัพย์สินกว่า 81 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลได้เรียกประชุมสมาชิกฯ สมัยวิสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2558 ตามคำสั่งของนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เรื่องสมาชิกสภา อบจ.สตูล ถูกจับกุมคดีค้ามนุษย์ 2 คน โดยมีผู้เข้าประชุมทั้งหมด 21 คนจากทั้งหมด 24 คน ซึ่งที่ประชุมอภิปรายว่าทั้ง 2 คน แม้จะถูกจับกุม แต่คดียังไม่สิ้นสุดถือว่ายังไม่มีความผิดและไม่ได้มีการลงมติถอดถอนสมาชิกภาพแต่อย่างใด
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิช ผู้บัญชาการกองทัพเรือ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. และคณะ ร่วมประชุมที่ห้องประชุมทัพเรือภาคที่ 3 จ.ภูเก็ต เพื่อร่วมรับทราบการปฏิบัติงานและปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการอพยพเข้ามาในน่านน้ำไทยของชาวโรฮิงญา
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังการประชุมว่าปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญา มี 2 ประเด็นหลัก คือ กลุ่มที่อยู่ในทะเลซึ่งทางประเทศไทยได้ให้ความดูแลช่วยเหลือ และกลุ่มที่ 2 อยู่บนบกซึ่งมีการลักลอบเข้ามา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการพูดคุยกับนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่แสดงความชื่นไทยในความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญา แต่มีความห่วงใยผู้เดินทางที่ผู้ป่วยหนัก ซึ่งไทยยืนยันพร้อมดูแลตามหลักมนุษยธรรม แต่ต้องยึดหลักกฎหมายของไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งในการประชุม 15 ประเทศในวันที่ 29 พ.ค.นี้ จะมีการหารือแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศกลางทางและปลายทางในภูมิภาค ซึ่งได้ข้อสรุปพอสมควรแต่ต้องมีมติร่วมกันเพื่อเสนอต่อองค์กรระหว่างประเทศในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์
