นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าที่จะเกิดขึ้นในปี 2563 โดยเฉพาะเกษตรกร เนื่องจากในช่วงหน้าร้อนจะต้องพบกับสภาพแห้งแล้งที่อาจส่งผลกระทบ ทั้ง ข้าว สัตว์เลี้ยง ผักสด จนอาจทำให้ผลผลิตต่ำลง ปริมาณการผลิตข้าวอาจลดลง 5-10% โดยเฉพาะข้าวนาปรัง ที่เคยผลิตได้ประมาณ 8 ล้านตันต่อปี อาจเหลือ 3.5 - 4 ล้านตันต่อปี ส่วนระดับราคาของข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว มองว่าจะยืนอยู่ในระดับสูงเกินตันละ 14,000 บาท รวมทั้งอาจปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เร่งแจกจ่ายน้ำ เครื่องอุปโภค-บริโภค สู้ภัยแล้ง
หารือแก้ปัญหาภัยแล้ง กทม.-อีสานระทม ข้าวยืนต้นตาย!
สิ่งที่น่ากังวลต่อมาคือ สุกร ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อนจัด ในต่างประเทศอย่างเวียดนาม จีน และกัมพูชา ได้การเกิดโรคระบาดมีผลทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก ขณะที่ผู้เลี้ยงสุกรของไทยยังรักษาการเติบโตได้ดี ราคาไม่เกิน 75 บาท อาจเป็นโอกาสผู้เลี้ยงไทยจึงส่งออกได้มากขึ้น เบื้องต้นจะพยายามรักษาระดับราคาไว้ที่ 75-80 บาท แต่หากเกิดสถานการณ์ความขาดแคลนในประเทศก็อาจมีมาตรการจำกัดการส่งออก เพื่อช่วยเหลือการบริโภคในประเทศ
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เน้นย้ำว่าสัญญาณของภาวะภัยแล้งเกิดที่จะเกิดขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัวรับมือล่วงหน้า ทั้ง ผักสด สินค้าเกษตรหลายชนิด โดยเฉพาะร้านอาหาร หรือผู้ที่ใช้มะนาวจำนวนมาก เนื่องจากราคามะนาว อาจปรับขึ้นไปที่ระดับสูงกว่าที่เคยเป็นมาจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
สำหรับกรณีของน้ำดื่มนั้น อธิบดีกรมการค้าภายใน บอกว่าราคาปัจจุบันยังอยู่ในภาวะปกติที่ราว 5-10 บาท แต่หากราคาผิดปกติ ทางกรมการค้าภายในจะเข้าไปดูทันที
กปน.แนะวิธีบริโภคน้ำช่วงภัยแล้งสำหรับประชาชน