ภูเขาไฟตาอัล ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา บนเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ เริ่มพ่นลาวาร้อนออกมาเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ( 13 ม.ค.) หลังจากปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลาต้องประกาศปิดสนามบินชั่วคราว ขณะที่ทางการสั่งอพยพประชาชนราว 8 พันคน ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงออกจากพื้นที่
ฟิลิปปินส์ยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟมายอนเป็นระดับที่ 4
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ สั่งหน่วยงานราชการในกรุงมะนิลาหยุดทำการและโรงเรียนทุกระดับงดการเรียนการสอนในวันนี้
ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ระบุว่า แผนพาแรงงานฟิลิปปินส์ในอิรักกลับประเทศอาจล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากเที่ยวบินได้รับผลกระทบจากเหตุภูเขาไฟตาอัลปะทุ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานการบินพลเรือนของฟิลิปปินส์ ประกาศว่าท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลาได้กลับมาให้บริการบางส่วนแล้ว ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย สำหรับเที่ยวบินขาออก และ 11.00 น. สำหรับเที่ยวบินขาเข้า
ส่วนการบินไทยยังคงยกเลิกเที่ยวบินกรุงเทพ-มะนิลา และมะนิลา-กรุงเทพ 2 เที่ยวบิน ในวันนี้
ก่อนหน้านี้ สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาแห่งฟิลิปปินส์ (Phivolcs) ได้ยกระดับการเฝ้าระวังการปะทุของภูเขาไฟตาอัลลูกนี้เพิ่มเป็นระดับ 4 จากสูงสุด 5 ระดับ ซึ่งหมายความว่า อาจเกิดการระเบิดที่เป็นอันตรายในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รวมถึงเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าฝั่ง หากภูเขาไฟตาอัล เคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นถึงการเตือนภัยระดับ 5
อย่างไรก็ตาม นายเรนาโต โซลิดุม ผู้อำนวยสถาบันฯ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณของการระเบิดขั้นอันตราย เช่น การไหลของขี้เถ้า หิน และก๊าซ ที่มีความเร็วแนวระนาบมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับภูเขาไฟตาอัล ตั้งอยู่กลางทะเลสาบตาอัลบนเกาะลูซอน ห่างจากกรุงมะนิลาราว 70 กิโลเมตร เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กที่สุดลูกหนึ่งของโลกที่ยังไม่ดับสนิท
อย่างไรก็ตาม สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาแห่งฟิลิปปินส์ระบุว่า แม้ว่าภูเขาไฟตาอัลจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ถือว่ามีอันตราย เพราะเป็นภูเขาไฟที่อยู่ในภูเขาไฟอีกที และยังเป็นภูเขาไฟที่สลับซับซ้อน คือไม่ได้มีปล่องเพียงปล่องเดียว แต่มีจุดที่อาจระเบิดได้หลายจุดและเปลี่ยนแปลงได้ทุกครั้ง
นอกจากนี้ ภูเขาไฟตาอัลได้ชื่อว่าเป็นภูเขาไฟที่คุกรุ่นมากที่สุดอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์ โดยเคยระเบิดมาแล้ว 34 ครั้ง ตลอด 500 ปีที่ผ่านมา ครั้งสุดท้ายที่มีการระเบิดคือในปี ค.ศ.1977
ทั้งนี้ การระเบิดรุนแรงของภูเขาไฟตาอัลในปี ค.ศ. 1911 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 1,500 คน ขณะที่การระเบิดในปี ค.ศ. 1974 กินระยะเวลานานหลายเดือน