ไม่ใช่แค่ฝุ่น PM 2.5 เท่านั้นที่เราต้องระวัง และดูแลสุขภาพตนเอง แต่ยังมีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กำลังระบาดในประเทศจีน และยังพบผู้ป่วยที่เดินทางจากจีนไปประเทศอื่นๆ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดในจีน ณ เวลา 02.53 วันที่ 24 ม.ค.2563 พบผู้ป่วย 846 ราย เสียชีวิต 25 ราย ซึ่งจีนได้ประกาศพื้นที่ควบคุมการเดินทาง ทั้งอู่ฮั่น หวงกัง ชื่อปี้ เอ้อโจว และจือเจียง
จีนยืนยันโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ติดจากคนสู่คน
ไทยวางระบบป้องกัน หลังจีนยืนยันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ติดคนสู่คน
ส่วนประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 23 ม.ค. 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สงสัยต้องเฝ้าระวังฯ สะสมทั้งหมด 53 ราย ส่วนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 4 ราย หายป่วยและกลับประเทศแล้ว 2 ราย
สำหรับ “ไวรัสโคโรนา” เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจและรุนแรงจนเกิดภาวะปอดบวม ปอดอักเสบ ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส (SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันที่เคยระบาดเมื่อปี 2546 โดยอาการสำคัญ ได้แก่ มีไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ
ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคปอดอักเสบรุนแรงจากไวรัส กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สรุปใจความสำคัญของโรค “ไวรัสโคโรนา” ระบุว่า จุดเริ่มมาจากการระบาดของโรคติดต่อทางเดินหายใจที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน และเริ่มไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศไทย ประเทศญี่ปุ่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศเกาหลีใต้ เป็นต้น โดยผู้ป่วยที่พบในต่างประเทศยังพบว่า เชื่อมโยงกับเมืองอู่ฮั่น
ด้วยเหตุนี้ ในแต่ละประเทศจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นตามคำประกาศของทางการจีน หากมีความจำเป็นต้องเดินทางควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์ และไม่สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วยหรือตาย และหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลล้างมือ และหลังจากเดินทางกลับ ภายใน 14 วัน หากมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที
“6 ข้อกังวลโคโรนาไวรัส” กับความเสี่ยงระบาดไทย?
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นในประเทศจีน พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำงานในตลาดหรือมีประวัติเดินทางไปที่ตลาด South China Seafood Market ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด เช่น นก ไก่ฟ้า งู เครื่องในกระต่าย และสัตว์ป่าอื่นๆ ขณะนี้ตลาดดังกล่าวได้มีการจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และถูกปิดแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
ทั้งนี้ เราสามารถป้องกันตนเองได้ โดย
• ประชาชนสามารถเดินทางไปประเทศจีนได้ อย่างไรก็ดีควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น หรือเมืองตามคำประกาศของทางการจีน
• ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย
• หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี
• หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
• ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
• รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
• หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422