“เพื่อไทย” สวน “วิษณุ” ส.ส.เสียบบัตรแทน ต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกับสมัย “ยิ่งลักษณ์”
“วิษณุ” ยัน ส.ส.เสียบบัตรแทน ไม่เสียหายแต่ทำพ.ร.บ.งบฯล่าช้า
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกดบัตรแทนกันของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลว่า สะท้อนให้เห็นผลกระทบที่สำคัญ 2 ด้าน ทั้งทางด้านความเสียหายต่อเศรษฐกิจประเทศและความเสียหายต่อบรรทัดฐานของการตีความกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในสังคม เนื่องจากการเสียบบัตรแทนกันครั้งนี้ เป็นการลงมติเพื่อเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อมีปัญหาที่ถูกตั้งคำถาม เกี่ยวกับความชอบในการตราพระราชบัญญัติฉบับนี้อันจะส่งผลให้เกิดความล่าช้าของการประกาศใช้ พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งจะส่งผลต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่กระทบต่อเงินลงทุนของประเทศอย่างหนัก จึงนับเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่ประเทศต้องการการขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งถือเป็นความหวังเดียวที่เหลืออยู่ในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจขณะนี้ ซึ่งความล่าช้านี้ยังจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง และสร้างความชะงักงันต่อเศรษฐกิจประเทศ
ถอดถอน “อุดมเดช-นริศร” พ้นการเมือง 5 ปี
ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมในสังคมอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากบรรทัดฐานในอดีตที่เราสามารถเทียบเคียงได้อย่างชัดเจนว่าการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณครั้งนี้มีกระบวนการตราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นโมฆะได้ ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเฝ้าจับตามองว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะคลี่คลายอย่างไร การบิดเบือนหรือการตีความใดๆ ในขณะนี้ ที่ต่างออกไปจากข้อสรุป และความเชื่อที่สังคม มีอยู่ น่าจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมที่กำลังมีข้อกังขาอยู่ในปัจจุบัน
"โภคิน" ชี้ร่าง พ.ร.บ. งบ 63 ส่อโมฆะหลังส.ส.รัฐบาลเสียบบัตรแทนกัน
ดังนั้นกระบวนการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป ทุกองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องยึดมั่นในหลักการตามกฎหมาย และตามบรรทัดฐานที่ถูกต้องที่เคยมีมาในอดีต เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเคลือบแคลงและบั่นทอนต่อความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐสภาไทย และต่อระบบกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมไทย สิ่งที่เป็นข้อพึงระวังคือ ทุกฝ่ายต้องไม่คิดแก้ไขปัญหา แค่เพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพียงเพื่อให้ พ.ร.บ.งบประมาณผ่านไปได้ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายอย่างรุนแรงในอนาคตที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามตนหวังว่าผู้ที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนเพื่อน ส.ส.ที่ฝากบัตรให้เพื่อนเสียบแทน หัวหน้าพรรคการเมืองที่มีสมาชิกกระทำผิด ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ตลอดจนองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ต้องตระหนักถึงภาระความรับผิดชอบที่สำคัญนี้ ไม่ปล่อยให้ปัญหานี้จบลงด้วยวิธีการที่สร้างความเคลือบแคลงใจกับคนในประเทศ และทำลายความเชื่อมั่นของนานาประเทศ เหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่าน อย่าให้ประเทศเราต้องบอบช้ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่เลยครับ
โผล่เพิ่ม !! 2 ส.ส.พปชร. เสียบบัตรลงคะแนนแทนพ.ร.บ.งบฯปี 63
“วิปรัฐบาล” แจง ไม่ได้เสียบบัตรแทน แค่ช่วยกันลงคะแนน