“อัจฉริยะ” เตรียมแฉ โครงการเอาที่ป่าสงวนฯ มาหลอกขายทหารชั้นผู้น้อย
"บิ๊กแดง" สั่งเจ้ากรมสวัสดิการทหารบกตรวจสอบธุรกิจค่ายทหาร
สำเนาเอกสารซื้อขายที่ดินหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร และสัญญากู้เงิน คือ หลักฐานที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมกับทหารชั้นผู้น้อยนำมามอบให้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมร้องทุกข์ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพที่มีการนำที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ มาสร้างบ้านหลอกขายผู้ใต้บังคับบัญชา โดยใช้เงินกู้ตามสิทธิของกรมสวัสดิการทหารบก
ผู้เสียหายที่เดินทางมากับนายอัจฉริยะในวันนี้เป็นนายทหารยศ ร.ต. เขาเล่าว่า ไปดูบ้านไว้เมื่อปี 2559 เป็นบ้านตัวอย่างหลังหนึ่งอยู่ในอำเภอพรานกระต่าย ห่างจากตัวเมืองกำแพงเชร 8 กิโลเมตร โดยมีนายหน้าเป็นทหารยศ จ.ส.อ. สังกัดกรมสวัสดิการทหารบกเป็นคนพาไป โดยให้เขาทำเรื่องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้านหลังนี้ ในราคา 1 ล้าน 5 แสนบาทจากโครงการสวัสดิการทหารบก หรือ อทบ. และมีนายหน้าจะขอเช่าต่อ 100 เดือน เป็นเงิน 210,000 บาท และในเงินกู้ 1.5 ล้านบาท จะมีส่วนที่กู้ยืมมาเป็นค่าตกแต่งบ้านแต่ไม่ได้ใช้จริง ประมาณ 200,000 บาท คืนกลับมา จึงยอมทำสัญญาซื้อขาย และผ่อนชำระมาระยะหนึ่งแล้ว
ทหารยศร้อยตรีคนนี้เล่าต่อว่า เหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะเมื่อเดือน มิถุนายนปี 2562 ได้ไปดูบ้านที่ทำสัญญาซื้อขายกัน แต่กลับพบว่าเป็นบ้านคนละหลังกับที่ทำสัญญาไว้ ซึ่งบ้านหลังที่ไปดูเป็นบ้านเลขที่ 107 ส่วนบ้านที่ทำสัญญาเป็นบ้านเลขที่ 101 จึงติดต่อนายหน้า แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด พร้อมอ้างว่าจะดำเนินการปรับปรุงให้ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ผู้เสียหายคนนี้จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับทาง สภ.พรานกระต่าย
ที่น่าสนใจคือตำรวจในพื้นที่ บอกว่าที่ดินดังกล่าวเคยมีการร้องเรียนเมื่อปี 2558 ว่า ปลูกสร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมบังคับคดี และตำรวจในพื้นที่ก็ไม่ขอรับแจ้งความ จึงพยายามรวบรวมข้อเท็จจริง จนได้ข้อมูลที่ชัดเจนจากกรมป่าไม้ภาค 4 ที่ยืนยันว่า ที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่ในเขตป่าสงวนจริง ผู้เสียหายยังตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ช่วงที่ไปจดจำนองเมื่อปี 2558 สำนักงานที่ดินจึงไม่ทักท้วง
ผู้เสียหาย ยังเปิดเผยว่า กรมสวัสดิการทหารบก มีการทำหนังสือตอบกลับหลังขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายหน้าคนนี้ แต่ได้รับคำตอบว่า ยังไม่พบการกระทำผิด จึงตัดสินใจรวบรวมพยานหลักฐาน ร้องเรียนกับตำรวจ บก.ปทส. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีนี้ ยืนยันว่าที่มาร้องเรียน ไม่ได้ต้องการให้เอาผิดกับผู้บังคับบัญชาของตัวเอง แต่อยากให้มีการยกเลิกสัญญา ระงับการหักเงินเดือนตามที่ได้ยื่นกู้ เพราะได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 500,000 บาท นอกจากนี้ผู้เสียหายหลายคนที่ได้รับความเสียหายจากโครงการนี้ ต้องแบกรับสภาพหนี้ และเสี่ยงต้องถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกป่าสงวนตามไปด้วย
ด้าน นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ต้องช่วยทหารชั้นผู้น้อยที่ถูกหลอกเพราะไม่รู้มาก่อนว่าที่ดินตรงนั้นเป็นที่ดินป่าสงวน
ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่ากรณีนี้ต้องไปตรวจสอบรายละเอียดเพราะที่ดินมีการเปลี่ยนมือ หากแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วจะลงไปดำเนินการทันที
"อัจฉริยะ" แฉ ทหารชั้นผู้น้อย ถูกโกงอีกกว่า1,000 นาย
แฉมีทหารโคราชอีกกว่า 100 นายถูก "นาย" อมเบี้ยเลี้ยง
