ข้อความที่ คุณ สมจิตร บัวดา โพสต์ไว้มีดังนี้ “เตือนภัยพระไม่จ่ายค่าแท็กซี 1809฿ ทำงานหาเช้ากินค่ำยังหลอกลวงกันได้ สามีออกไปขับแท็กซี่ แต่โดนพระชิ่งหนี เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 19/04/63 เวลาประมาณ 12.10 น. มีพระรูปนึงได้เรียกรถแท็กซี่สามี แล้วถามรีบไหมไปหลายที่นะโยม สามีบอกได้ๆไม่รีบ ขับรถ จากเที่ยง จบเกือบ หกโมงเย็น
รับจากวัดสร้อยทอง พระราม7
-ไปวัดป่าคลอง 15 ธัญญบุรี
-ไปวัดป่าคลอง11
-ไปสำนักสงฆ์ คลอง 2
-ไปสำนักสงฆ์โรงพยาบาลบีแคร์
-ไปหลวงปู่สรวง
-ไปวัดสลักเหนือ
และที่สุดท้ายวัดผาสุกมณีจักร จังหวัดนนทบุรี ที่สุดท้ายที่ไปพระรูปนี้บอกลงไปทำธุระแล้วหายไปเลย ไม่สามารถติดต่อได้ สามีได้ขับรถกลับไปถามวัดต่างๆและเอารูปให้ดูแต่ไม่มีใครรู้จัก แค่พบเจอในวันที่เกิดเหตุเท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปวัดผาสุกมณีจักร พบที่วัดไม่มีกล้องวงจรปิด เลยไปที่วัดสลักเหนือ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด ซึ่งวัดแห่งนี้มีกล้องวงจรปิด และจับภาพพระคิ้วหนา รูปนี้ได้
พระลูกวัดสลักเหนือ เล่าว่า เห็นพระคิ้วหนารูปนี้ ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในวัดจริง จึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดกัน พบว่า พระคิ้วหนาเดินทางมาที่วัด 16.21 น. เปิดประตูรั้วด้านหน้ากุฎิเจ้าอาวาสเดินตรงหายไปจากรัศมีกล้องวงจรปิดประมาณ 2 นาทีจากนั้นได้เดินออกมาเปิดย่ามพระเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างก่อนจะเดินไปหยุดบริเวณหน้าประตูทางออกแล้วหันมายกมือไหว้แล้วเดินออกไป คาดว่าไปขึ้นแท็กซี่เพื่อไปวัดผาสุกมณีจักรซึ่งเป็นวัดสุดท้ายที่ไป ก่อนหายตัวไป
พ.ต.อ.พงษ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมเปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพระภายในวัดสลักเหนือ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดแล้ว ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวพระสงฆ์รูปดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป