กก.โรคติดต่อแห่งชาติ ไฟเขียว เปิดร้านอาหาร-ตลาดสด

ร้านทำผม ยืนยันมีมาตรการเข้มป้อง โควิด-19 รอรัฐอนุมัติเปิดร้าน

กทม. ไฟเขียวคลายล็อก “8 กิจการ” รอ ศบค. เคาะวันเปิดทั่วประเทศ

การผ่อนปรนกิจการหรือกิจกรรมที่สามารถเปิดกิจการได้ ในช่วงระบาด โควิด-19 หลังที่ประชุม หลังที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ วันนี้ มีมติเห็นชอบ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

1. กิจการ หรือ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ร้านอาหารที่เปิดโล่ง  ร้านตัดผมที่ไม่มีแอร์  ตลาด

2.กิจการหรือกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก และต่อเศรษฐกิจสังคม เช่น ห้างสรรพสินค้า  ภัตตาคารนวดแผนไทย

3.กิจการ หรือ กิจกรรมที่เพิ่มความสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิต เช่น ฟิตเนส  โรงยิม  สปา  กองถ่ายภาพยนตร์

4.กิจการหรือกิจกรรม ที่ไม่ควรให้เปิดดำเนินการ คือสถานที่ที่เป็นที่แออัด คับแคบ ปิดทึบ มืดสลัว เช่น สนามมวย บ่อน สถานบันเทิง

สำหรับกิจการ หรือ กิจกรรม ในลำดับที่ 1 สามารถเปิดบริการได้เลย ส่วนลำดับ 2-3 จะต้องหารือกันอีกครั้ง ส่วนกิจการลำดับที่ 4 ยังไม่สามารถเปิดได้  โดยกิจการที่สามารถเปิดได้ แต่ละจังหวัด ต้องมีมาตรการการผ่อนปรนที่สอดคล้องกัน เพื่อเลี่ยงการเคลื่อนย้ายของประชาชน

สำหรับกิจการ หรือ กิจกรรม ในลำดับที่ 1 สามารถเปิดบริการได้เลย ส่วนลำดับ 2-3 จะต้องหารือกันอีกครั้ง ส่วนกิจการลำดับที่ 4 ยังไม่สามารถเปิดได้  โดยกิจการที่สามารถเปิดได้ แต่ละจังหวัด ต้องมีมาตรการการผ่อนปรนที่สอดคล้องกัน เพื่อเลี่ยงการเคลื่อนย้ายของประชาชน

ส่วนข้อเสนอผ่อนปรนของกทม.ใน 8 กิจการ มีแนวทางที่จะเป็นไปได้เนื่องทอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยข้อมูลจากการประชุมวันนี้ จะเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 เพื่อออกมาตรการพื้นฐานที่อยู่ในข้อกำหนด  เจ้าของ  ผู้ใช้บริการ และผู้ควบคุมดูแลร่วมรับผิดชอบ โดยงให้อำนาจแต่ละจังหวัดดำเนินการได้  และที่ประชุมยังเห็นด้วยกับแนวทาง ตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการของกลุ่มเสี่ยงและสถานที่เสี่ยงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้ห้าพันคนภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จากเดิมวันละสองพันคนต่อประชากรหนึ่งล้านคน

โดยกลุ่มเสี่ยง  คือ บุคลากรทางการแพทย์ แรงงานข้ามชาติ  ผู้ต้องขัง  และ กลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยง ส่วนสถานที่ในแคมป์คนงานก่อสร้าง ชุมชนแออัด ซึ่งจะเน้นการตรวจแบบเก็บสารคัดหลั่ง และการบ้วนน้ำลายในบางพื้นที่