“มหิดล” แนะ การศึกษาไทยอย่าหนีขึ้นแต่ออนไลน์ควรปรับหลักสูตร “สร้างภูมิคุ้มกัน”

โดย PPTV Online

เผยแพร่

CMMU ชี้การศึกษาไทยอย่าทำแต่หนีขึ้นออนไลน์ ต้องสอนวิธีสร้างภูมิคุ้มกัน “คนและธุรกิจ” ให้เร็ว

คอนเทนต์แนะนำ
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 13 พ.ค. 63

รัสเซียบังคับนักเรียนแพทย์ไปสู้โควิด-19 ในแนวหน้า

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนพล วีราสา รองคณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สถานการณ์วิกฤติจากโควิด-2019 ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งโลก โดยเฉพาะธุรกิจบริการจำนวนมากไม่ทันตั้งตัว ต้องสะดุดหรือปิดตัวลง ทำให้ออนไลน์กลายเป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป ธุรกิจจำนวนมากถูกบังคับให้หันไปใช้ออนไลน์เป็นช่องทางใหม่ในการขายและทำตลาด ตั้งแต่ post สินค้า ตอบคำถาม รับ order จ่ายเงิน จัดส่งถึงบ้าน  หรือแม้แต่โรงเรียนก็ยังต้องมาสอนกันผ่านออนไลน์แบบถูๆ ไถๆ กันไป

สำหรับธุรกิจที่ประคองตัวรอดจากโควิด-19 มาได้ ผู้บริหารหรือผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมากคงมีคำถามในใจว่า ธุรกิจจะดำเนินต่อไปอย่างไร จะทำกันแบบเดิมหรือเปลี่ยนไปเป็นออนไลน์แบบเต็มรูปแบบดีหรือไม่ คิดไปคิดมาก็กล้าๆ กลัวๆ ไม่มั่นใจว่าจะไปต่อยังไงดี  ถ้าท่านตั้งคำถามแบบนี้ แสดงว่าธุรกิจยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ และคิดเพียงว่าออนไลน์เป็นคำตอบสุดท้าย หรือแค่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จ้างคน IT เก่งๆ เข้ามาทำงานให้ก็จะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง นั่นคงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอย่างแน่นอน แล้วอะไรคือคำตอบสำหรับธุรกิจหลังจากหมดวิกฤติคราวนี้

ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 หรือหลายๆ เหตุการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ไฟไหม้ป่า ความวุ่นวายทางการเมือง หรือสินค้าหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ออกมาสู่ตลาดทุกวัน ล้วนแต่เป็นปัจจัยภายนอกที่มากระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะเห็นธุรกิจดีๆ อีกมากมายต้องล้มหายตายจากไปเพราะปรับตัวไม่ทัน  ดังนั้น ทางรอดของ “ธุรกิจ” จำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันภายในตนเอง เหมือนกับร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้เองหลังจากต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ร่างกายพร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคที่จะเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว

ธุรกิจก็เช่นเดียวกัน ต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เร็ว โลกอนาคตจะเป็นโลกของ “SPEED”  ผู้บริหารและพนักงานในองค์กรต้องมีทัศนคติที่กล้าล้ม กล้าเรียนรู้อย่างรวดเร็ว (Growth Mindset)  และเสริมด้วยความรู้ด้านดิจิทัล  ปรับวิธีการทำงาน กระบวนการภายในองค์กร และรู้จักเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเป็นเครื่องทุ่นแรงในการทำธุรกิจ การขายและการตลาด รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และความคล่องตัวในการรองรับสถานการณ์  การเปลี่ยนแปลงคงไม่ใช่ทำกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ต้องทำกันแบบยกเครื่องใหม่ทั้งระบบเลย

ทุกวันนี้เราคงได้ยินนักคิดและผู้บริหารจำนวนมากพูดถึงคำว่า Digital Transformation  ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนึกถึงเทคโนโลยีดิจิทัล พวก application, virtual reality, IoT, AI, machine learning, smart devices   แล้วธุรกิจของเราจำเป็นต้องเรียนการใช้เทคโนโลยีพวกนี้หมดเลยหรือไม่  ถ้าเราไม่ได้จบวิศวะหรือเป็นโปรแกรมเมอร์มาก่อนจะสู้ต่อในโลกดิจิทัลนี้อย่างไร  แต่จากบทความของสำนักวิชาการดังๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น WEF, Harvard, MIT, Gartner พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เทคโนโลยีไม่ใช่คำตอบ บริษัทจะทุ่มเงินซื้อเทคโนโลยีเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้า “คน” ในองค์กรไม่หัดเรียนรู้ ไม่ปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงาน วิธีแก้ปัญหา ก็เสียเงินเปล่า

สถาบันการศึกษาก็จำเป็นที่จะต้องปรับหลักสูตรใหม่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับ “ธุรกิจ” ขึ้นมาจริงๆ  ต้องเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดพื้นฐานและความเข้าใจต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล  ทำให้มองเห็นโอกาสใหม่ในการทำธุรกิจ  การได้กลับมาเรียนใหม่ในช่วงเวลาที่ไม่นานจนเกินไปและอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ จึงเป็นคำตอบ

ในปีที่ผ่านมา CMMU จึงได้ก่อตั้ง NEO Academy พัฒนาหลักสูตรระยะสั้นสำหรับบุคคลทั่วไป พนักงานในองค์กร และผู้ประกอบการ ภายใต้แนวคิด “โลกใหม่ โอกาสใหม่ การศึกษาใหม่” ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลก และรวบรวมโอกาสทางธุรกิจที่เป็นไปได้ เช่น หลักสูตรการสร้างโอกาสทางธุรกิจใจสังคมอายุยืน และล่าสุดที่กำลังเปิดรับสมัครในช่วงนี้คือ หลักสูตรการบริหารธุรกิจยุคดิจิทัล (Mini MBA - Digital Business Management) ที่ปรับมาเรียนแบบออนไลน์ เน้นการทำให้ง่ายและใช้งานได้จริง (Simplify & Apply)  เพื่อช่วยให้คนที่กำลังกลัวกับ Digital Disruption หายจากอาการกลัวนี้และกล้าไปต่อ ให้ผู้เรียนรู้สึกมีไฟที่จะปรับตัวเมื่อเรียนจบหลักสูตรไป

“เมื่อวันแรงงานที่ผ่านมา World Economic Forum ได้ออกบทความที่ระบุว่า โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ “งานแห่งอนาคต” มาถึงเร็วกว่าที่คิด และคนกว่าครึ่งโลกมีความเสี่ยงจะตกงาน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่งาน​ไม่เหมาะกับคน  แต่ทำอย่างไรให้เราเป็นคนที่เหมาะ​กับงาน​ คนชอบพูดว่าโลกนี้อยู่ยาก แต่แค่เราเปิดโอกาสให้ตัวเองหามุมที่เหมาะกับเราบนโลกให้ได้ หน้าที่ของ NEO Academy  คือ สร้างทางเลือกให้กับประชาชนมากที่สุด ดังนั้น Mini MBA ที่พัฒนาขึ้นมานี้จึงมีองค์ความรู้พื้นฐานที่ครบที่สุด ปูความรู้ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจปัจจุบันสู่ธุรกิจดิจิทัล มองเห็นองค์รวมของธุรกิจ ไม่ใช่กระโดดไปเรียน Digital Marketing เพียงอย่างเดียว”

ดร.ธนพล กล่าวทิ้งท้ายว่า มหาวิทยาลัยมหิดลอยากพาการศึกษารูปแบบใหม่ออกไปหาคนที่พร้อมจะเรียนรู้ เป็นการศึกษาแบบเปิด ไม่ใช่เรียนเผื่อ และเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เราจึงตั้งใจปรุงหลักสูตรให้เข้มข้นที่สุด เป็น Mini MBA ที่ครบเครื่อง  เมื่อความรู้ที่ทันสมัยที่สุดและย่อยง่ายที่สุดได้ไปถึงหน้าจอที่บ้านทุกคน ความเจริญจะได้ไม่กระจุกอยู่ที่เมืองใหญ่เท่านั้น ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เคยกระจายอยู่ทั่วประเทศจะลดลง การเพิ่มทุนความรู้เข้าไปสำคัญยิ่งกว่าทุนไหนๆ บนโลกนี้ 

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ