เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ศาลได้อ่านคำพิพากษา ที่นางนวลฉวี เกตุวัฒนเวสน์ กับพวก รวม 410 คน ในฐานะสมาชิกและผู้เสียหาย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำเลยที่ 1-2 ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 1,115 ล้านบาท จากกรณีเมื่อปี 2552-2556 นายศุภชัย จำเลยที่ 1 และ 2 ได้โฆษณาเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า กิจการของจำเลยที่ 1 เป็นธนาคารพาณิชย์ มีสถานะการเงินมั่นคง น่าเชื่อถือสามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ธนาคารพาณิชย์อื่นพึงจ่ายได้ เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งหมดและประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาฝากกับจำเลยที่ 1 ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยที่ 1 มีสถานะเป็นเพียงสถาบันการเงินเพื่อชุมชนเท่านั้น ไม่มีสถานะเป็นสถาบันเป็นธนาคารพาณิชย์แต่อย่างใดทำให้จำเลยทั้งสอง ได้เงินหรือทรัพย์สินจากโจทก์ไป รวมเป็นเงิน 1,115,567,027 บาท
ปปง. สั่งอายัดที่ดิน “อาคารบุญรักษา” หลังพบเชื่อมโยงทุจริตสหกรณ์คลองจั่น
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทย์นำมายื่นฟ้อง ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 และ 2 กระทำผิดตามฟ้องจริง เช่น การที่โจทก์อ้างว่าจำเลยทำการโฆษณาหลอกลวงให้นำเงินมาร่วมลงทุน ก็เป็นการโฆษณาตามปกติ ในการประกอบกิจการสหกรณ์ ที่สามารถทำได้ ส่วนจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเลือกตัดสินใจของประชาชนเอง และไม่ได้หลอกลวงหรือตั้งใจไม่จ่ายเงินให้กับสมาชิกมาตั้งแต่ต้น ที่สำคัญพยานฝ่ายโจทก์ซึ่งอ้างว่ามีจำนวนมากถึง 410 คน แต่เมื่อขึ้นเบิกความกลับมีเพียง 3 คน แม้จะมี นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาขึ้นเบิกความ แต่ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย หรือ รับรู้การกระทำของจำเลยโดยตรง โดยขึ้นเบิกความตามคำบอกเล่าในฐานะผู้รับมอบอำนาจและที่ปรึกษาของฝ่ายโจทย์เท่านั้น
ดังนั้นเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย สรุปมีคำพิพากษายกฟ้อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายนายศุภชัย ถูกฟ้องดำเนินคดีในหลายความผิด และต้องโทษคดียักยอกทรัพย์ มูลค่าความเสียหาย 22 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุก นายศุภชัย 7 ปี
ปิดคดี! ธรรมกายยอมคืนเงินยูเนี่ยนคลองจั่น 684 ล้านบาท
