เนื้อหมูแพงลิ่ว แตะ 180/กก. เหตุหมูไทยเนื้อหอมเพื่อนบ้านจอง ส.สุกร แนะกินอย่างอื่น
ร้านอาหารโอดหมูแพง จ่อปรับขึ้นราคา
วันนี้ 17 ก.ค. 2563 ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่ตลาดสดมีนบุรี พบว่า ราคาเนื้อหมูตั้งแต่คลายล็อกปรับขึ้นมาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 30 บาท วันนี้ ราคาหมูเนื้อแดง ราคาอยู่ที่ราว 150-160 บาท เนื้อสัน อยู่ที่ 160-170 บาท ส่วนสามชั้นอยู่ที่ 170-180 บาทโดยบรรดาพ่อค้า แม่ค้าแผงหมู ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งควบคุมการส่งออกโดยด่วน เพราะมองว่าการส่งออกเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้พ่อค้าคนกลางมาแย่งซื้อหมูไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จึงดันให้ราคาหมูพุ่งสูง หากรัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมการส่งออกได้ คนไทยอาจจะต้องซื้อเนื้อหมูในราคากิโลกรัมละ 200 บาท
สำหรับร้านอาหารตามสั่ง หรือ ร้านข้าวที่มีหมูเป็นวัตถุดิบหลัก เช่น “ร้านข้าวหมูแดง แม่ประยูร” ยังคงตรึงราคาอาหารไว้เท่าเดิม แม้จะต้องมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นถึงวันละ 1,000 บาท เพราะ เข้าใจสภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้และกังวลว่าถ้าขึ้นราคาจะขายได้น้อยลง
เช่นเดียวกันกับร้านหมูทอดออนซอน ย่านวิภาวดี ที่บอกว่าตั้งแต่ขายมาไม่เคยพบราคาเนื้อหมูแพงขนาดนี้ แต่จะยังไม่ขึ้นราคา เพราะสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันผู้คนลำบากกันอยู่แล้ว แต่ถ้าแนวโน้มยังสูงขึ้นต่อเนื่องก็อาจจำเป็นต้องพิจารณาปรับขึ้นราคา
ขณะที่ร้านชื่อดังอย่างหมูทอดเจ๊จง ฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันว่า ขอให้เห็นใจคนซื้อเช่นกัน เชื่อว่าสถานการ์ณแบบนี้ หากเอากำไรเยอะๆ ร้านค้าเองจะอยู่ไม่ได้ ส่วนการปรับขึ้นราคานั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ปรับขึ้นแล้ว หากราคาหมูลดลงก็ต้องปรับราคาลงด้วย ส่วนลูกค้าส่วนใหญ่ ก็เข้าใจถึงการปรับราคาขึ้น เพราะต้นทุนที่รับมาแพง ถ้าขึ้นราคาบ้างเล็กน้อยให้ธุรกิจอยู่ได้ แล้วรักษามาตรฐาน ลูกค้าได้ทานของที่มีคุณภาพ แบบนี้ก็ยอมจ่ายแพงขึ้น
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ออกมาระบุว่า จะดูแลราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มให้ไม่เกิน 80 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาขายหมูหน้าเขียงไม่เกิน 160 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมจำหน่ายหมูสดลดค่าครองชีพประชาชนทั่วไทย ส่งตรงจากฟาร์มถึงมือผู้บริโภคไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง นำร่องที่จังหวัดชลบุรีก่อนเป็นที่แรก ในวันที่ 21 ก.ค. และขายพร้อมกันทุกภูมิภาค วันที่ 7 ส.ค. 2563
ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน ได้ สั่งพาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มหมู และเขียงหมูในตลาดสดว่าอยู่ในราคาที่เหมาะสมหรือไม่ หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์อาจจะพิจารณามาตรการจำกัดการส่งออกต่อไป