รถแท็กซี่ โตโยต้า สีชมพู คันนี้ ภาพนอกดูเหมือนแท็กซี่ทั่วไป แต่ภายในรถถูกตกแต่งเต็มไปด้วยเครื่องรางของขลังจำนวนมากโดยเฉพาะบริเวณคอลโซนหน้ารถ เพดานรถด้านบน และกระโปรงหลังท้ายรถ ถูกตกแต่งด้วย “เครือเขาหลง” ลักษณะเป็นรากไม้คล้ายเถาวัลย์เลื้อยเต็มทั้งคัน
แท็กซี่ใจดี สู้เพื่อครอบครัว แม้ต้องกินข้าวกับน้ำปลา
เจ้าของรถแท็กซี่คันนี้ คือ นายวิชัย ชินวงศ์ อายุ 70 ปี คนขับแท็กซี่รายนี้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เหตุผลที่นำเครื่องรางของขลังมาตกแต่งในรถเพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยป้องกันภัยอันตรายจากการถูกโจรผู้ร้ายปล้นจี้ระหว่างขับรถตอนกลางคืน
เมื่อถามว่าผู้โดยสารหวาดกลัวบ้างไหมเมื่อขึ้นใช้บริการ นายวิชัย บอกว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ 97% บอกว่าไม่กลัว มีแต่ผู้โดยสารขอเครื่องรางของขลังติดไม้ติดมือกลับไปบูชาที่บ้านอีกด้วย
นายวิชัย บอกว่า ตนมีความชื่นชอบส่วนตัว ในเครือเขาหลง และ กาฝากต้นไม้ชนิดอื่นที่นำมาตกแต่งภายในรถ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตร มีแต่คนรักคนหลง อีกทั้งยังช่วยเสริมเรื่องโชคลาภสิริมงคล
โดยตอนแรกตนสะสมไว้ที่บ้านพักและเริ่มนำมาติดในรถตั้งแต่ปี 2549 จนกระทั่งสะสมมาเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่พบเห็นข้างทางก็ขอเจ้าของมาไว้บูชาในรถตามความเชื่อของตัวเอง
เช่น กาฝากมะยม ที่มีความเชื่อว่าคนจะนิยมชมชอบ สงสาร เมตตา , กาฝากคูณ ช่วยค้ำคูน ,กาฝากรัก คนเห็นก็รัก ชอบ เอ็นดู , กาฝากขนุน เชื่อว่าหนุนนำไว้ไม่ให้จม , กาฝากมะดัน เชื่อว่าดันไว้ไม่ให้รถตกหลุม ตกท่อ หรือประสบอุบัติเหตุ และกาฝากมะรุม เชื่อว่าจะทำให้คนรุมล้อมขึ้นรถ
นายวิชัย เผยประสบการณ์โดยตรงให้ฟังอีกว่า ครั้งหนึ่งเคยกระทบกระทั่งกับคู่กรณีบนท้องถนน ถูกชักอาวุธปืนออกมาจ่อหัว ตนได้ภาวนาขอสิ่งศักสิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครอง สุดท้ายคู่กรณีเปลี่ยนใจยิงปืนลงถนนแทน จึงคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเครือเขาหลงดลใจให้คู่กรณีเปลี่ยนใจ
การตกแต่งรถแท็กซี่ ในลักษณะนี้ มีคำถามขึ้นมาว่าผิดไหม ด้านกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่าได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่าคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวกระทำผิดพ.ร.บรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 12 รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากปรากฎในภายหลังว่ารถนั้นมีส่วนควบหรืออุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถนั้นจนกว่าจะจัดให้มีครบถ้วนถูกต้องหรือเอาออก มีโทษตามมาตร 60 เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 2,000 บาท จากนี้กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการแจ้งเจ้าของรถเพื่อนำรถเข้าตรวจสภาพใหม่อีกครั้ง