ปิดฉาก 28 ปี “อิเซตัน” ห้างญี่ปุ่นใจกลางกรุงเทพฯ
โบกมือลาอิเซตัน พร้อมส่องแผน เซนทรัลเวิลด์รีโนเวทพื้นที่ครั้งใหม่
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เวลา 20.30 น. ห้างสรรพสินค้า “อิเซตัน (Isetan)” ประเทศไทย ปิดตัวลงอย่างสวยงาม จัดกิจกรรมเต้นเพลง "Isetan-tan-tan" ซึ่งเป็นเพลงประจำห้าง เนื่องในวันปิดทำการ โดยมีประชาชนที่เดินทางมาซื้อสินค้าและเก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายร่วมรับชมและให้กำลังใจ
ต่อมา ในเวลา 21.30 น. มีการมอบขนมปังขอบคุณลูกค้าผู้มาใช้บริการ และพิธีปิดป้ายโลโก้และแสงไฟ ปิดฉากห้างสรรพสินค้าสัญชาติญี่ปุ่น ที่มอบความทรงจำมานานกว่า 28 ปี
เซอิจิ อาโอยามะ ประธานกรรมการ ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ประเทศไทย กล่าวในพิธีปิดว่า “ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ประเทศไทย จะยุติการดำเนินกิจการ ณ วันนี้ ขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริงที่สนับสนุนห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ประเทศไทย มาตลอดระยะเวลา 28 ปี”
ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ประเทศไทย จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2532 ด้วยทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท มีคนไทยถือหุ้น 14 ราย คนญี่ปุ่น 1 ราย ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันแรกเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2535 ที่อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หรือในตอนนั้นคือเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
“พวกเราทุกคน คณะผู้บริหาร และพนักงานบริษัท อิเซตัน ประเทศไทย (จำกัด) จะขอเก็บภาพความทรงจำและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสุนจากลูกค้ามาโดยตลอด 28 ปีที่ผ่านมานี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ประเทศไทย จะยังคงอยู่ในหัวใจ และความทรงจำของลูกค้าทุกคนตลอดไป” ประธานกรรมการอิเซตันกล่าว
เมื่อย้อนดูผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี ห้างสรรพสินค้าสัญชาติญี่ปุ่นนี้ยังคงมีกำไร โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า
ปี 2559 อิเซตันมีรายได้ 1,422.432 ล้านบาท กำไร 7.79 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 1,423.919 ล้านบาท กำไร 15.76 ล้านบาท
และปี 2561 รายได้ 1,454.395 ล้านบาท กำไร 31.94 ล้านบาท
จากข้อมูลดังกล่าว พบว่า รายจ่ายใกล้เคียงกับรายได้ทุกปี แม้มีกำไรแต่ก็ไม่มาก อีกทั้งเมื่อปี 2558 อิเซตันเพิ่งลงทุนรีโนเวตครั้งใหญ่ ใช้ต้นทุนไปกว่า 1 พันล้านบาท
บริษัทอิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศไว้เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า “บริษัทจะยุติการดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เนื่องจากการสิ้นสุดสัญญาเช่ากับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN”
เซอิจิกล่าวว่า “ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เราได้ประกาศว่า จะยุติการดำเนินกิจการ มีหลายท่านแสดงความเสียใจ เสียดาย ที่ห้างของเราปิดตัวลง หลาย ๆ ท่านบอกว่า ชอบอิเซตันมาก และรู้สึกใจหาย เสียใจที่ห้างปิดตัวลง จากนี้ไปไม่รู้ว่าจะซื้อของที่ไหน ทุกครั้งที่ฟัง พวกเราทุกคนรู้สึกว่า ต้องทำให้ห้างของเราปิดตัวลงอย่างดีที่สุด และทำให้พวกเราทุกคนรู้สึกได้จริง ๆ ว่า ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ประเทศไทย ของพวกเรานั้น ได้รับความรักจากทุก ๆ ท่านมากมายแค่ไหน”
ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่อิเซตันประกาศยุติการดำเนินงาน วัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เคยกล่าวไว้ว่า “สำหรับแผนในอนาคต หลังจากที่สัญญาเช่ากับอิเซตันจะหมดลงในเดือนธันวาคม 2563 นั้น เซ็นทรัลเวิลด์ได้เตรียมแผนลงทุนรีโนเวทพื้นที่ดังกล่าวครั้งใหญ่ ซึ่งสอดคล้องเป็นไปตามแผนงานการรีโนเวทของศูนย์การค้าโดยรวม ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 27,000 ตร.ม. จำนวน 6 ชั้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้ของศูนย์การค้าโดยใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตอกย้ำความเป็น Global Lifestyle Destination โดยขณะนี้ เราจะดึงพันธมิตรรายใหม่ระดับนานาชาติหลายราย รวมถึง International Key Anchor ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาและจะประกาศให้ทราบในเร็วๆ นี้ เพื่อเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ให้กับย่านราชประสงค์ ใจกลางกรุงเทพฯ ให้มีสีสันแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า”
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์จะทำการปิดพื้นที่ฝั่งอิเซตันเพื่อรีโนเวตทั้งอาคารครั้งใหญ่ และจะกลับมาเปิดให้บริการใหม่ ประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ซึ่งแผนการรีโนเวตดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากสัญญาเช่ากับอิเซตันเป็นสัญญาเช่าระยะยาวเหมาจ่ายตั้งแต่สมัยเป็นเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ โดยทาง CPN ที่เข้ามาเป็นผู้บริหารศูนย์การค้าในภายหลัง ไม่มีการรับรู้รายได้ค่าเช่าของพื้นที่นี้แต่อย่างใด