ตำรวจฮ่องกงถูกวิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล หลังปรากฏคลิปวิโอเจ้าหน้าที่จับเด็กหญิงวัย 12 ปีลงกับพื้น ใกล้กับสถานที่ที่มีการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในวันอาทิตย์ (6 ก.ย.) ที่ผ่านมา
ฮ่องกง พบผู้ติดเชื้อโควิดซ้ำ เป็นเคสแรกของโลก
“จิมมี่ ไหล่” เตือนผู้ประท้วงฮ่องกงให้ระวังตัวมากขึ้น
จีนจับกุมนักเรียนฮ่องกง 4คน ข้อหาแบ่งแยกดินแดน
คลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงให้เห็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนเข้าใกล้เด็กสาวคนหนึ่งในย่านมงก๊กและบอกให้เธอยืนนิ่ง ๆ แต่เมื่อเด็กหญิงเริ่มวิ่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็แตะเธอด้วยกระบอง ขณะที่อีกคนวิ่งเข้าหาเธอและผลักเธอลงกับพื้น
หลังจากนั้นตำรวจปราบจลาจลจำนวนมากก็รุมล้อมกดเด็กผู้หญิงและพี่ชายของเธอซึ่งพยายามเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนผู้คนแถวนั้นถูกกั้นไว้ให้ยืนดูอยู่เฉย ๆ สื่อท้องถิ่นระบุว่า เด็กหญิงและพี่ชายของเธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในภายหลังโดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังจากนั้น ตำรวจออกใบสั่งเรียกค่าปรับให้เด็กหญิงและพี่ชาย รวมถึงผู้ที่สัญจรไปมา โดยอ้างว่าละเมิดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ห้ามมีการรวมตัวกันมากกว่า 2 คนในที่สาธารณะ
ขณะที่ครอบครัวของเด็กหญิงบอกว่า เธอแค่ออกไปซื้ออุปกรณ์การเรียน และรู้สึกกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตำรวจเท่านั้น
"พาเมลา" นามสมมติของเด็กหญิงคนดังกล่าว บอกว่า เธอพักอาศัยอยู่ใกล้ ๆ บริเวณที่เกิดเหตุ และออกมาซื้อของชำกับครอบครัว ก่อนจะแยกตัวไปซื้ออุปกรณ์ศิลปะสำหรับทำงานส่งครู
“แต่ถนนถูกกั้นโดยวงล้อมของตำรวจ เราจึงตัดสินใจเดินกลับไปหาครอบครัวอีกครั้ง ... แล้วจู่ ๆ ตำรวจก็วิ่งมาหาเรา หนูกลัวมาก พวกเขาบอกให้หนูอยู่นิ่ง ๆ แต่หนูตกใจจึงวิ่งหนีไป” เด็กหญิงบอก
ตำรวจกล่าวว่า เด็กหญิงมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่มที่ผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้กำลังหลังจากที่เธอ "วิ่งหนีด้วยท่าทางมีพิรุธ"
ในแถลงการณ์ ตำรวจระบุว่า พวกเขามาทำหน้าที่สกัดกั้นผู้ประท้วงในมงก๊กซึ่งปฏิเสธที่จะสลายตัวตามคำเตือน และต้องการให้เด็กหญิง “หยุดเพื่อค้นตัว” แต่จู่ ๆ เธอก็วิ่งหนีด้วยท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงไล่ล่า และควบคุมเธอโดยใช้กำลังเท่าที่จำเป็น”
หลังจากการสอบสวนพวกเขาระบุว่า “เด็กหญิงและผู้ประท้วงคนอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่มที่ฝ่าฝืนข้อบังคับมาตรการในช่วงโควิด-19 ระบาด จึงต้องออกใบสั่งเรียกค่าปรับ
มีผู้ถูกจับกุมเกือบ 300 คนในการรวมกลุ่มประท้วงรัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขณะที่เหตุการณ์ทำนองคล้ายกันนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยตำรวจฮ่องกงถูกกล่าวหาว่าผลักหญิงมีครรภ์คนหนึ่งลงกับพื้น หลังมีการรวมกลุ่มบริเวณสถานีรถไฟใต้ดินพรินซ์เอ็ดเวิร์ด (MTR Prince Edward) ย่านมงก๊ก ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยยุทธวิธีพิเศษของตำรวจฮ่องกงได้ใช้กระบองและใช้สเปรย์พริกไทยใส่ผู้โดยสารภายในตู้รถไฟและบนชานชาลา ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน
ท่ามกลางความโกลาหลนั้น หญิงตั้งครรภ์และสามีของเธออยู่ในพื้นที่การรวมกลุ่มด้วย วิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์แสดงให้เห็นว่า ตำรวจพยายามควบคุมตัวสามี แต่เขาโอบแขนภรรยาไว้และพยายามขัดขืนการจับกุม ทำให้หญิงตั้งครรภ์ถูกดึงลงพื้นไปด้วย
แหล่งข่าวซึ่งอยู่ในเหตุการณ์บอกว่า อาการของหญิงตั้งครรภ์คนดังกล่าวเป็นปกติหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลก่วงหัว (Kwang Wah Hospital) และอำนวยความสะดวกที่จำเป็นทั้งหมดให้
การประท้วงในฮ่องกงดำเนินสืบเนื่องมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2019 โดยชาวฮ่องกงโดยเฉพาะวัยรุ่นออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาล หลังมีการเสนอกฎหมายอนุญาตให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้ ต่อมาเมื่อโควิด-19 ระบาดก็ทำให้สถานการณ์การประท้วงทุเลาลง
กระทั่งล่าสุด รัฐบาลฮ่องกงเสนอเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 1 ปี ทำให้ความไม่พอใจลุกลามอีกครั้ง และเกิดการรวมกลุ่มกันประท้วงในหลายพื้นที่ ซึ่งขัดกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมสกัดโควิด-19 ทำให้มีผ๔ประท้วงหลายรายถูกจับกุม
อย่างไรก็ตาม การจับกุมผู้ประท้วงของตำรวจฮ่องกงนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอดมาว่ารุนแงเกินกว่าเหตุและไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาผู้ประท้วงหลายพันคนถูกจับกุม ซึ่งมีนักเรียนและเด็กอายุระหว่าง 12 ถึง 15 ปีรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีวัยรุ่นถูกยิงจากการปะทะกับตำรวจเช่นกัน
เรียบเรียงจาก BBC, Global News, HKFP, SCMP