เปิดปฎิบัติการจับกุมผู้ชุมนุม หลังฝั่งผู้ร่วมชุมนุมขว้างประทัดใส่ตำรวจ ตำรวจการเปิดปฎิบัติการจับกุมผู้ชุมนุม บริเวณหน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน
“สมศักดิ์” ยัน “เพนกวิน” ไม่มีสิทธิพิเศษ ทุกคนได้เหมือนกัน
เกิดขึ้นหลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ในเวลาประมาณ 21.00 น. และแยกย้าย แต่มีกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมบางส่วนไม่ยอมแยกย้าย และเริ่มขว้างปาสิ่งของ จุดประทัดโยนใส่ตำรวจ นานกว่า 30 นาที
โดยในระหว่างนั้นตำรวจประกาศให้คนกลุ่มนี้ยุติการขว้างปาสิ่งของแต่ไม่สำเร็จ
ก่อนตำรวจเริ่มเปิดปฎิบัติการจับกุมในเวลาประมาณ 21.30 น. และกระชับพื้นที่ สามารถคุมตัวผู้ชุมนุมได้หลายคน บางส่วนถอยร่นออกไปทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ก่อนหน้านี้ ผู้ชุมนุมส่งนายอรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำ เป็นตัวแทนเจรจากับตำรวจ เพื่อขอให้แกนนำ 4คน สามารถเข้าไปสักการะศาลหลักเมือง แต่ในระหว่างนั้น นายภานุพงศ์ จาดนอก แกนนำ ประกาศนับถอยหลัง ทำให้ผู้ชุมนุมรื้อแนวสกัดของตำรวจ และขว้างปาสิ่งของ เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย ก่อนจะเริ่มถอยออกมาตั้งหลัก
การเจรจารอบ 2 ทำให้แกนนำ 4 คน สามารถเข้าไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองได้สำเร็จ หลังจากนั้นเรียกร้องให้ปล่อยตัว 4แกนนำ ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ โดยขีดเส้นใต้ 7 วัน พร้อมขู่ว่าหากไม่ปล่อย4แกนนำ จะยกระดับการชุมนุม
การชุมนุมวันนี้เริ่มต้นจากการรวมตัวที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จัดกิจกรรมรื้อต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ ก่อนนำผ้าแดงที่มีข้อความข้อเรียกร้อง ห่มอนุสาวรีย์ หลังจากนั้นนายอรรถพล บัวพัฒน์ ประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวน โดยย้ำว่าต้องการนำผู้ชุมนุมไปสักการะศาลหลักเมือง หลังจากนั้นจึงเริ่มเคลื่อนขบวนไปตามถนนราชดำเนิน
- ย้อนลำดับเหตุการณ์
หลังกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ราษฎร ได้จัดกิจกรรมรื้อถอนต้นไม้โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในช่วงเย็น แกนนำของกลุ่มได้ประกาศนำมวลชนเดินเท้าไปยังศาลหลักเมือง เพื่อประกาศจุดยืนให้ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตประกันตัว 4 แกนนำที่ถูกจับกุมก่อนหน้า และเรียกร้องให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยระหว่างทางมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลัง 2 ช่วง ช่วงแรกคือบริเวณแยกโรงแรมนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งผู้ชุมนุมได้ฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่มาได้
หลังจากนั้นได้มีการเคลื่อนย้ายมายังหน้าศาลฎีกา มีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งตรึงกำลังโดยมีโล่กำบัง ลวดหนามหีบเพลง รถฉีดน้ำ และรถเครื่องเสียง ห่างจากผู้ชุมนุมในระยะประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ประกาศให้มวลชนยุติการชุมนุมเป็นระยะ
แต่ในระหว่างนั้นเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้น เกิดความชุลมุนวุ่นวาย จนเจ้าหน้าที่ต้องมีการประกาศเตือนว่าจะใช้น้ำสลายการชุมชุม แกนนำได้มีประกาศให้ผู้ชุมนุมสงบลง และไปสู่การเจรจาครั้งที่สอง
ครูใหญ่ แกนนำผู้ชุมนุม เปิดเผยว่าจะขีดเส้นตายให้เวลากับเจ้าหน้าที่ 7 วัน หากไม่ปล่อยตัว 4 แกนนำ จะดำเนินการจัดการชุมนุมอีกครั้ง และจะรวบรวมคนให้ได้ 2 ล้านคน หากรัฐบาลไม่ตอบสนอง จะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้น การที่จะเข้าไปในศาลหลักเมืองครั้งนี้เพียงเพื่อไปเจรจาต่อศาลให้คุ้มครองแกนนำทั้ง4
หลังจากนั้นแกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุม ประมาณ 20.00 น. มีเหตุชุลมุนขึ้นเนื่องจากผู้ชุมนุมบางกลุ่มยังไม่ยอมกลับและขว้างปาสิ่งของเข้าไปในแนวรั้วที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ประกาศเตือนว่าจะใช้น้ำสลายการชุมนุม หลายครั้ง
ต่อมาช่วงเวลา 20.40น.กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มขว้างปาแก้วและวัตถุที่ส่งเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์ กว่า30ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ประกาศให้สื่อมวลชนหลบไปอยู่หลังแนวกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนและหลังจากนั้นได้ทำการสลายการชุมนุมโดยใช้น้ำผสมสารเคมี จนการชุมนุมยุติลงช่วง 21:30 น.โดยประมาณ พร้อมกับปฏิการจับผู้ชุมนุม
ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนประกาศเจ้าหน้าที่ ไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยระหว่างที่สื่อมวลชนเข้าไปหลบหลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนมีคู่สามีภรรยาซึ่งลักษณะคล้ายคนที่อยู่ในอาการเมา
หลังสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 20นาย โดยถูกของแข็งกระแทก ส่วนผู้ชุมนุมที่ถูกตำรวจจับกุมมีประมาณ7-8ราย ซึ่งเบื้องต้นได้คุมตัวไปที่ สน.ชนะสงคราม ในส่วนของวัตถุที่ผู้ชุมนุมขว้างปาใส่สิ่งของคล้ายระเบิด เบื้องต้นคาดว่าเป็น ประทัดยักษ์ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อีโอดีได้เข้าตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานว่าวัตถุนั้นคืออะไร
ส่วนเรื่องการยิงกันหน้าแมคโดนัลด์บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่ายังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูล