วันที่ 29 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการแถลงคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงไปวานนี้ (28 ต.ค. 58) พร้อมเปิดเผยพฤติการณ์การกระทำความผิดของ 3 ผู้ต้องหา คือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหนอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาร์ต และพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ซึ่งมีการกระทำผิดรวมทั้งสิ้น 13 คดี โดยมีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงและมีการเรียกรับผลประโยชน์ในการจัดทำสิ่งของต่างๆจากภาคเอกชน รวมทั้งยังมีการนำของกลางมายืนยัน ซึ่งพบว่าเป็นของกลางในเครือข่ายคดี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง
ทั้งนี้พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบัน กำลังอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องในความผิดตามมาตรา 112 เบื้องต้นได้แบ่งชุดพนักงานสอบสวนไว้หลายสิบชุด ซึ่งจะแยกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละสำนวนคดี หากบุคคลที่จะสอบปากคำเป็นผู้มีความสำคัญ ก็จะมอบหมายให้หัวหน้าชุดสอบสวนในแต่ละชุดไปสอบปากคำ โดยมีนายตำรวจระดับพล.ต.ต.เข้าร่วมในการสอบสวนด้วย
ส่วนในกรณีบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่จัดทำสิ่งของนั้น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า จะมีคณะพนักงานสอบสวนไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นบริษัทที่ดำเนินการซื้อขายอย่างสุจริตและเป็นเรื่องของทางการค้า แต่ทั้งนี้จะต้องเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง ว่ามีเจตนาอื่นแอบแฝงหรือไม่
ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวต่อว่า กรณีคนสนิทของ สว.เอี๊ยด ผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอาวุธปืนของกลางนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับอยู่ระหว่างรวมรวบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเช่นเดียวกับผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนจึงต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมขอศาลออกหมายจับต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติการของผู้ต้องหาในแต่ละราย
ส่วนกรณีที่หมอหยองได้โอนย้ายทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดไปให้กับเครือญาตินั้น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า เบื้องต้นทางฝ่ายสืบสวนลงไปติดตามทรัพย์สินว่าได้กระจายไปอยู่ที่บุคคลใดบ้าง เพื่อจะทำการยึดทรัพย์สินคืนต่อไป และหากพบว่าเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน