สถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบทุกภาคของไทย-หลายพื้นที่ยังน่าห่วง
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
สถานการณ์ภัยแล้งยังคงส่งผลกระทบในหลายภูมิภาคของประเทศไทย และมีทีท่าว่าจะยาวนานกว่าทุกปีทีผ่านมา ประชาชนหลายจังหวัดเริ่มขาดแคลนน้ำ ขณะที่ร้านขายถังน้ำเผยประชาชนเริ่มทยอยซื้อตั้งแต่ประกาศภัยแล้งครั้งแรก

ผู้สื่อข่าว “PPTV HD” ลงพื้นที่สำรวจร้านขายถังน้ำย่านตลาดรังสิต บริเวณตลาด 4 มุมเมือง หลังการประปานครหลวง ประกาศลดปริมาณการปล่อยน้ำในช่วงกลางคืน พบว่าไม่มีประชาชนมาซื้อถังน้ำไปกักตุน เมื่อสอบถามพ่อค้าแม่ค้าร้านขายถังน้ำ ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ได้เตรียมซื้อถังน้ำไปกักตุนไว้ตั้งแต่การประปานครหลวง ประกาศลดการปล่อยน้ำครั้งก่อนแล้ว ส่งผลให้รอบนี้ไม่มีใครมาซื้อถังน้ำ รวมถึงทางร้านเองก็ไม่ได้สั่งถังมากักตุนเพื่อขายในช่วงแล้งนี้เช่นกัน ขณะที่ร้านขายถังน้ำฝั่งตลาดไทย ปทุมธานี บรรยากาศคนมาซื้อค่อนข้างบางตา ต่างจากครั้งก่อนที่ประกาศลดการปล่อยน้ำ แต่ร้านจำเป็นต้องสั่งถังน้ำ มากักตุนไว้ขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
ด้านจังหวัดนครราชสีมา ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา เหลือใช้ผลิตประปาได้อีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น เนื่องจากแม่น้ำมูลเริ่มแห้งขอด เบื้องต้นได้ประสานหน่วยงานต่างๆ ให้ช่วยขุดเปิดทางน้ำ หรือสูบน้ำจากห้วย หนอง คลอง บึง บริเวณใกล้เคียงเข้ามาเติมน้ำในลำน้ำมูล หากสามารถสูบน้ำมาเพิ่มได้ประมาณ 200,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ก็เพียงพอที่จะใช้ได้จนพ้นช่วงหน้าแล้ง แต่ถ้าสูบได้น้อยกว่านี้ก็ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านกว่า 27,000 ครัวเรือน ที่ต้องหาภาชนะมาตุนน้ำไว้ใช้
เช่นเดียวกับจังหวัดสุรินทร์ ขณะนี้แหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาหลายแห่งเริ่มประสบปัญหากับปริมาณน้ำที่ลดลง ส่งผลให้บรรดาพ่อค้าเร่บรรทุกน้ำขาย มีรายได้มากขึ้น โดยนายโกศล กองสุข พ่อค้าบรรทุกน้ำเร่ขาย เปิดเผยว่า 2 ปีที่ผ่านนี้มีรายได้จากการขายน้ำมากขึ้น เนื่องจากแล้งเร็วและนาน ชาวบ้านขาดน้ำอุปโภคบริโภค แม้จะมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาแจกน้ำแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ช่วงนี้มีรายได้จากการขายน้ำวันละประมาณ 1,600-2,000 บาท
ส่วนประชาชนในพื้นที่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี กว่า 150 หลังคาเรือน ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนักรอบในรอบสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งการขาดแคลนน้ำในครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อ พืช สวน ไร่ นา ของชาวบ้านแล้ว ยังส่งผลต่อการประกอบศาสนกิจของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย เพราะน้ำเป็นส่วนสำคัญในละหมาด เพื่อประกอบศาสนกิจ 5 เวลา ต่อวัน โดยที่ผ่านมาชาวบ้านต้องอาศัยน้ำบาดาลใช้ในการอุปโภค บริโภคเป็นหลัก เนื่องจากประปายังเข้าไม่ถึง จึงอยากวอนหน่อยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้น้ำบาดาลได้แห้งขอดจนไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้
ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าจะหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม ถึงความเป็นไปได้ ในการรณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำเล่นสงกรานต์ในลักษณะประพรม ไม่เน้นการสาดน้ำ ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้