วันนี้ (6 เม.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึงกรณีสมาคมผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติเปิดเผยเอกสารลับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท มอสแซค ฟอนเซกา ประเทศปานามา ซึ่งมีข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินของบุคคลสำคัญในหลายแวดวงทั่วโลก และมีข้อมูลเชื่อมโยงถึงบริษัทและบุคคลในประเทศไทย ระบุว่า ในส่วนอำนาจหน้าที่ของ สตง. ตามกฎหมาย จะทำการประสานไปยังกรมสรรพากรเพื่อให้ตรวจสอบการเสียภาษีของ 21 คนไทยที่มีชื่อปรากฏออกมาเพื่อดูว่ารายได้ที่มีนั้นสอดรับกับการเสียภาษีหรือไม่ โดยจะตรวจสอบย้อนหลังภายในช่วงระยะเวลา 5 ปี ซึ่งในการตรวจสอบสามารถดำเนินการได้ทันทีทั้งที่เป็นบุคคลและนิติบุคคล ทั้งนี้เมื่อได้ข้อมูลมา สตง.จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง แต่หากพบการหลบเลี่ยงภาษี กระบวนการตรวจสอบก็จะมีขั้นตอนเพิ่มมากขึ้น เพราะจำเป็นต้องแสวงหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมายืนยัน
นอกจากนี้ผู้ว่าฯ สตง. ยังเปิดเผยอีกว่า จะประสานกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงใน สตง. เปิดเผยว่าในอดีตเคยตรวจสอบพบการกระทำที่เข้าข่ายการฟอกเงินหรือหลบเลี่ยงภาษีว่ามีอย่างน้อย 2 วิธี โดยวิธีแรก คือ การติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อช่วยโยกย้ายเงินออกนอกประเทศก่อนไปทำธุรกรรมในต่างประเทศ วิธีที่ 2 คือ การโอนแบบโพยก๊วน หรือโอนเงินออกไปยังประเทศที่ 3 ที่กฎหมาย ป.ป.ง. ไปไม่ถึงก่อน จากนั้นจึงส่งต่อไปยังธนาคารตามหมู่เกาะต่างตามที่เป็นข่าว แต่ทั้งหมดที่กล่าวถึงนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับรายชื่อบุคคลที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เพราะเป็นเพียงวิธีการที่เคยพบมาก่อนหน้านี้เท่านั้น