วันนี้ (10 เม.ย. 59) อัยการเบลเยียมเผย นายโมฮัมเหม็ด อาบรินี ชาวเบลเยียมเชื้อสายโมร็อกโก วัย 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส ที่เพิ่งถูกจับกุมตัวได้ที่เบลเยียมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้การว่าตนเองอยู่ที่สนามบินซาเวนเทมในวันที่เกิดเหตุระเบิด ก่อนจะยอมจำนนต่อหลักฐาน ซึ่งมีทั้งดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่พบจากปฏิบัติการตรวจค้นอพาร์ทเม้นท์ในกรุงบรัสเซลส์ และสารภาพว่าตนเองคือชายสวมหมวก ที่ปรากฎในภาพวงจรปิดของสนามบินซาเวนเทม
ในข่าวเปิดเภยว่า จากภาพเขาเข็นกระเป๋าบรรทุกระเบิด อยู่ข้างมือระเบิดฆ่าตัวตายอีก 2 คน ก่อนจะทิ้งกระเป๋าและหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม นายอาบรินี ให้การเพิ่มเติมว่า ตนเองทิ้งแจ็คเก็ตที่ใส่ลงในถังขยะ และขายหมวกใส่อำพรางใบหน้าในวันเกิดเหตุไปแล้ว
ทั้งนี้ นายอาบรินีเป็น 1 ใน 6 ผู้ต้องสงสัย ที่ทางการต้องการตัว ฐานมีส่วนพัวพันกับเหตุโจมตีกรุงปารีส เมื่อปีที่แล้ว โดยทั้งหมดถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และ 4 คนถูกตั้งข้อหาก่อการร้ายแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่านายอาบรินีเป็นเพื่อนกับนายซาลาห์ อับเดสลาม ผู้ต้องหาคนสำคัญในเหตุโจมตีกรุงปารีส ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการส่งตัวไปยังฝรั่งเศส ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ทำให้เชื่อได้ว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส และกรุงบรัสเซลส์ น่าจะมาจากเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งมีกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส คอยให้การสนับสนุน
ขณะที่ทางการเบลเยียมแถลงชี้แจงว่า ขณะนี้ทางการได้จัดสรรงบประมาณด้านความมั่นคงเกือบทั้งหมดของปีนี้ และระดมเจ้าหน้าที่ ดูแลคุมเข้มความปลอดภัยให้กับประชาชนในประเทศ หลังเหตุโจมตีกรุงบรัสเซลส์