วันนี้ (10 เม.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และรองหัวหน้าพรรคอีก 2 คน คือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และนางองอาจ คล้ามไพบูลย์ สำหรับการแถลงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ในข่าวเปิดเภยว่า การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุชัดเจนว่า หากเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังจะลงประชามติ มีเนื้อหาในการปฏิรูปหลักประชาธิปไตยที่ถดถอยอย่างเด่นชัด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งในกระบวนการพัฒนา โดยสิทธิด้านการศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือบริการทางกฎหมาย และสิทธิผู้บริโภค
เช่นเดียวกับกระบวนการทำประชามติ ที่นอกจากจะมีการตั้งคำถามพ่วง ที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อล้มล้างเจตจำนงค์ทางการเมืองของประชาชน โดยให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. มีอำนาจเลือกนายกฯ ทัดเทียมกับ ส.ส.ที่มาจากเลือกตั้งของประชาชน
อีกทั้งยังมีการออกกฎหมายประชามติที่ห้ามประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญอย่างเสรีและเป็นธรรม แม้จุดยืนของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เท่าที่รวบรวมได้จะเป็นเช่นนี้ แต่หัวหน้าพรรคก็ยอมรับว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะรับหรือไม่รับร่างฉบับนี้ เพราะ คสช. โดยรองนายกฯด้านกฎหมาย อย่างนายวิษณุ เครืองาม ยังไม่ยอมเปิดแนวทางรองรับร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านมาประชามติที่ชัดเจน
โดยเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญและแนวทางทำประชามติที่ออกมาในทิศทางนี้ มาจากใบสั่งของคสช. หรือไม่ ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. ชี้แจงในภาพรวมเพียงว่า รัฐบาลต้องใช้เวลาในการทำงาน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความขัดแย้ง