วันนี้ (1 พ.ค. 59) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย เสนอแผนระงับการขยายพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับบริษัทปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้เป็นส่วนผสมสินค้าอุปโภคบริโภค หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา การเผาป่าทั้งบนเกาะสุมาตราและบอร์เนียว ทำให้เกิดวิกฤตหมอกควันที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงประเทศไทย
ทั้งนี้ นายโจโกวี ระบุว่า ปัจจุบัน มีพื้นที่สำหรับทำปาล์มน้ำมันเพียงพอแล้ว จึงขอให้ผู้ประกอบการเน้นหาวิธีการเพิ่มผลผลิตแทน
ซึ่งด้านสมาคมผู้ประกอบการปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซียออกมาเตือนว่า คำสั่งดังกล่าวจะส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท เนื่องจากปัจจุบัน อุตสาหกรรมดังกล่าวสนับสนุนให้มีการจ้างงานมากกว่า 24 ล้านตำแหน่ง ขณะที่ความต้องการปาล์มน้ำมันทะยานขึ้นเรื่อยๆ โดยตัวเลขรายได้จากการส่งออกปาล์มน้ำมันเมื่อปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่าง “กรีนพีซ อินโดนีเซีย” ก็ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลควรจะกำหนดมาตรการควบคุมที่จริงจังมากกว่านี้