ผ่านมา 3 วันเต็มแล้ว แต่ควันไฟไหม้ป่า บนเขาทะลุ จังหวัดชุมพร ยังคงพบเห็นได้อยู่หลายจุดและมีไฟปะทุในช่วงกลางวันขณะสภาพอากาศร้อน ช่วงเวลานี้ "รถน้ำ" เป็นความหวังเดียวของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่ปลูกติดกับเชิงเขา เพราะหลายคนกังวลว่าบ้านเรือนจะถูกไฟไหม้หรือหินร่วงหล่นจากภูเขาลงมาทับบ้านเรือนของพวกเขา
การดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเส้นทางไปยังจุดเกิดไฟไหม้ค่อนข้างสูง และลาดชัน ทำให้ชาวบ้านต้องช่วยกันนำสายยางยาวประมาณ 400 เมตร ต่อขึ้นไปบนภูเขาเพื่อช่วยกันดับไฟ โดยพวกเขาบอกว่า ไม่สามารถสร้างแนวกันไฟได้ทันก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้
ไฟไหม้ป่าลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกบนเขาทะลุ คนในพื้นที่จึงมีวิธีรับมือกับปัญหาไฟป่าได้เป็นอย่างดี และถึงแม้จะไม่ใช่วิธีที่ดับไฟที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาก็เชื่อว่าจะช่วยรักษาต้นไม้และชีวิตสัตว์ป่าบนเขาทะลุไว้ได้
สำหรับ ความรุนแรงของไฟไหม้ป่าครั้งนี้ "กิตติ ฉายากุล" หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าชุมพร ยอมรับว่า หนักหนาสาหัสกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะอยู่ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง มีน้ำน้อย ส่วนสาเหตุอาจเกิดจากธรรมชาติหรือฝีมือมนุษย์
"เขาทะลุ" มีความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ 2 พันไร่ จากการลงพื้นที่ของทีมข่าวพีพีทีวี พบว่า จุดที่พบไฟไหม้มากที่สุดเป็นป่าไผ่ ซึ่งเป็นพืชที่ติดไฟง่ายและขึ้นในที่สูงชันในเขาหินปูน การดับไฟจึงทำได้ยากลำบาก
จิตริน ชาญกว้าง ถ่ายภาพ
ณิชาภัทร อินทรกล่อม รายงาน