วันนี้ (15 มิ.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.เป็นต้นไป จะเป็นวันแรกที่ประชาชน จะสามารถลงทะเบียน เพื่อใช้บริการโอนเงินและรับโอนเงินในรูปแบบใหม่ หรือ Prompt Pay ผ่านระบบ Any ID ที่ใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 10 หลัก ไปผูกไว้กับบัญชีธนาคาร
โดยนางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เชื่อว่าระบบนี้จะเป็นประโยชน์และปลอดภัยต่อการทำธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น สอดคล้องกับนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ที่ให้ความมั่นใจว่าธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะมีระบบการตรวจสอบยืนยันตัวตนและความเป็นเจ้าของบัญชี เพื่อดูแลความปลอดภัยฐานข้อมูลสำหรับผู้ใช้งาน
ทั้งนี้หากจะอธิบายระบบ "Any ID" ง่ายๆ คือ การนำหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือไปผูกไว้กับบัญชีธนาคาร ก็จะทำให้การโอนเงิน รับโอนเงิน และการชำระเงิน สามารถทำได้โดยการแจ้งเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือ เบอร์โทรศัพท์ 10 หลัก ของผู้ที่จะทำธุรกรรมทางการเงินด้วย ผ่านบริการ Prompt Pay ของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ขณะที่รัฐบาลก็จะสามารถส่งเงินสวัสดิการต่างๆ ไปถึงประชาชนและเกษตรกร ได้โดยตรงผ่านระบบนี้ได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามตามแผนการลดใช้เงินสดของรัฐบาลครั้งนี้ ยังเป็นที่วิตกกังวลถึงความปลอดภัย แม้วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะยืนยันว่าปลอดภัยแน่นอน จึงต้องรอดูว่าหลังมีการเปิดใช้ระบบ Any ID ตามแผน National E-payment ของรัฐบาลแล้ว จะเป็นอย่างไร ประชาชนและเกษตรกรจะเข้าถึงระบบการชำระเงินแบบใหม่นี้ได้มากน้อยเพียงไร จะพลิกโฉมวงการการเงินไทยได้หรือไม่