เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 59 มีผู้ใช้บัญชีพันทิปชื่อ สมาชิกหมายเลข 342605 ได้ตั้งกระทู้ “อัพเดทเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านทำกิจการเค้ก ยังทำเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจำนวนแมลงสาบ” ใจความว่า หลังจากที่ร้องเรียนหน่วยงานเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบบ้านข้างเคียงที่ประกอบกิจการทำเค้กขาย แต่ไม่รักษาความสะอาดจนสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน ล่าสุดทางเทศบาลมีคำสั่งให้ย้ายกิจการออกภายใน 2 เดือน และห้ามสร้างความเดือดร้อนเช่นเดิมอีกในระหว่างดำเนินการย้ายออก แต่ปรากฏว่าบ้านของคู่กรณียังคงประกอบกิจการและยังสร้างความเดือดร้อนอยู่เช่นเดิม
เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น จึงเกิดเป็นคำถามที่ว่า การที่เพื่อนบ้านยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของทางเทศบาลและยังสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียง ผู้เดือดร้อนสามารถดำเนินการอะไรได้บ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้? ทีมข่าวนิวมีเดีย PPTV สอบถามประเด็นดังกล่าวไปยังทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ จากเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคู่ใจ” เปิดเผยว่า กรณีนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายมาตรา 74 ระบุไว้ ถ้าเจ้าหน้าที่มีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดกับการบริหารจัดการระบบสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาทหรือโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะถือเป็นคดีอาญาที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องบังคับใช้ด้วยกฎหมายและดำเนินคดี
อย่างไรก็ตามจากกรณีที่เกิดขึ้น ทนายรณณรงค์ แนะนำว่า ผู้เสียหายสามารถไปร้องเรียนกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอน แต่ถ้าหากคู่กรณีไม่ทำตามคำสั่ง กระทรวงฯ ต้องบังคับใช้ด้วยกฎหมายและดำเนินคดี ทั้งนี้ทั้งนั้นหากกระทรวงฯ ทำงานล่าช้า ผู้เสียหายสามารถร้องเรียนศาลปกครองได้ หรือถ้าผู้เสียหายจะฟ้องคู่กรณีโดยตรง สามารถใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เหตุละเมิด มาตรา 420 แทนได้
นอกจากนี้ทนายรณณรงค์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ไม่มีฝ่ายนิติบุคคล ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องเจ้าของโครงการได้เลย
