ข้าวเปลือกหอมบนแปลงนา 15 ไร่ ของไพสัณฑ์ โชติชาวนา อายุ 67 ปี ชาวนาในอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว หลังผลผลิตออกรวงแก่เต็มที่
แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาล 59/60 แต่ด้วยข้อจำกัดที่ไพสัณฑ์ มีภาระหนี้สินหลายหมื่นบาท ประกอบกับไม่มียุ้งฉางเพื่อเก็บข้าว การขายข้าวทันทีเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จจึงนับเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ไพสัณฑ์ มองว่า มาตรการที่รัฐบาลกำลังจะออกมาช่วยเหลือชาวนาสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือชาวนาในพื้นที่นี้ได้ เพราะพื้นที่ปลูกข้าวเกือบทั้งหมดกำลังเข้าสู่กระบวนการเก็บเกี่ยว ไม่สามารถจะรอได้ เพราะข้าวแก่เต็มที่แล้ว หากปล่อยไว้เมล็ดข้าวจะลีบ ยิ่งจะทำให้ราคาลดต่ำลง จึงยอมขายข้าวขาดทุนให้กับพ่อค้าคนกลางเพียงตันละไม่เกิน 5,900 บาท
เช่นเดียวกับวันทา สังฆมะณี ชาวนาในอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร มองว่า มาตรการแก้ไขปัญหาราคาข้าวออกมาช้าจนเกินไป ไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้
โดยเกษตรกรจังหวัดพิจิตร มองว่า แนวทางแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลจะต้องมีแนวทางให้ชาวนาเป็นผู้กำหนดราคาซื้อขาย หรือ สามารถต่อรองราคาเองได้ ไม่ใช่ให้พ่อค้าคนกลางหรือโรงสีที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตข้าวเป็นผู้กำหนดราคาอย่างเช่นในปัจจุบัน
ณธัชพงศ์ เตียวสวัสดิ์ ถ่ายภาพ
ขวัญ โม้ชา พีพีทีวี รายงาน