แม้ยังพูดคุยได้ แต่ลูกเรือประมงชาวสุรินทร์ วัย 37 ปีคนนี้ ยังมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ หลังต้องเผชิญความยากลำบากบนเกาะเบญจิน่าของอินโดนีเซีย นานกว่า 3 ปี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังเขามีปัญหากับลูกเรือประมงลำเดียวกัน เมื่อปี 2556 จึงตัดสินใจหนีจากเรือขณะเข้าเทียบท่าเกาะเบนจิน่า
สภาพตัวเปล่า ไม่มีเอกสารถูกต้องตามกฏหมาย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะแห่งนั้น เหมือนคนปกติ เขา่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพไม่ต่างจากคนเร่ร่อน รอนแรมหลงป่า อดข้าวอดน้ำ หลายวัน ในความโชคร้ายหากไม่ได้น้ำใจจากชนพื้นเมืองบนเกาะที่หยิบยื่นช่วยเหลือ ก็คงไม่มีวันนี้
กว่า 3 ปีที่ต้องใช้ชีวิตอย่างไร้จุดมุ่งหมาย ไม่กล้าแม้แต่ฝันว่าจะได้กลับคืนแผ่นดินแม่ กระทั่งวันที่ 21 ตุลาคม 2559 สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกเรือประมงไทยในอินโดนีเซีย ได้รับความช่วยเหลือกลับประเทศไทย ก่อนหน้านี้มีลูกเรือประมงมากกว่าพันคน ถูกทยอยส่งกลับ แต่ ผจก.มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน คาดว่า ยังมีลูกเรือประมงชาวไทย กัมพูชา และลาว อีกไม่ต่ำกว่า 100 คน ที่ยังคงรอการช่วยเหลือ..
พิพัฒน์ ปิ่นหิรัญ ถ่ายภาพ
อัฟนัน อับดุลเลาะ รายงาน