วันนี้ (12 ก.พ. 60) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บทความจากเว็บไซต์นิตยสารไทมส์ ระบุว่าข้อมูลเรื่องที่มาของกีวี่ไม่เป็นที่แน่ชัดนักและไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร จึงต้องมีการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ โดยมีการระบุว่า เมล็ดพันธุ์ของกีวี่เดินทางมาถึงประเทศนิวซีแลนด์เมื่อศตวรรษที่ 20 โดยมาจากประเทศจีน
จุดเริ่มต้นของกีวี่ในนิวซีแลนด์เกิดขึ้นในปี 1904 เมื่อคุณแมรี่ อิซาเบลล์ เฟรเซอร์ ครูใหญ่โรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่ง ได้นำผลไม้ที่มีชื่อว่า “หมีเหาเถา” (Mihoutao) ซึ่งแปลว่า “ผลไม้ของลิง” กลับมาจากประเทศจีน และมอบให้กับเกษตรกรคนหนึ่งไปปลูกในฟาร์มริมน้ำของเขาที่เมืองวังกานุย ก่อนที่กีวี่จะเริ่มออกผลช่วงปี 1910 ซึ่งในตอนนั้นฝรั่งจะผลไม้นี้ว่าเรียกว่า “กูสเบอร์รี่จีน”
ในบทความของ รอส เฟอร์กูสัน นักสรีรวิทยาพืชชาวนิวซีแลนด์ที่เผยแพร่เมื่อปี 1983 ระบุว่า ช่วงที่กีวี่เข้ามาในนิวซีแลนด์ ก็ได้มีการทดลองปลูกเพื่อการค้าที่อังกฤษและสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน แต่ว่าเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร
50 ปีผ่านไป “หมีเหาเถา” หรือ “กูสเบอร์รี่จีน” นี้ ถึงจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น “กีวี่” อย่างที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทุกวันนี้ โดยบริษัทเทิร์นเนอร์แอนด์โกรว์เออร์ส ที่ส่งออกผลไม้นี้ไปยังสหรัฐฯ เป็นผู้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “กีวี่” ในปี 1959 เพราะไม่ต้องการให้คนอเมริกาสับสนกับผลกูสเบอรรี่ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่
โดยหลังจากมีการเสนอชื่อก็ได้ข้อสรุปว่า ผลไม้ผิวสีน้ำตาลมีขน มีความคล้ายคลึงกับเจ้าตัว “นกกีวี่” สัตว์ประจำชาติของนิวซีแลนด์ จึงนำชื่อของนกนี่มาเป็นชื่อผลไม้นี้ด้วย กีวี่กลายเป็นผลไม้ที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก จนกระทั่งในช่วงปี 1970 ชื่อของกีวี่ก็ติดตลาดและเป็นที่เข้าใจว่าเป็นผลไม้นิวซีแลนด์
ปัจจุบัน กีวี่มีการปลูกอย่างแพร่หลายในสหรัฐฯ อิตาลี และจีน ซึ่งต้องบอกว่า จริงๆ แล้ว ประเทศที่ผลิตกีวี่รายใหญ่ที่สุดในโลก (ข้อมูลปี 2014) ก็คือประเทศจีน