ตอนนี้เกาหลีเหนือประกาศออกมาชัดเจนว่า ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ จะยิงขีปนาวุธแบบฮวาซอง-12 จำนวน 4 ลูก ให้ไปตกในน่านน้ำใกล้กับเกาะกวม ดินแดนในอาณานิคมของสหรัฐฯ สำหรับขีปนาวุธฮวาซอง-12 นี้ มีวิถีทำการไกลสุดอยู่ที่ 5,000 กิโลเมตร ในขณะที่เกาะกวมอยู่ห่างจากเกาหลีเหนือราว 3,500 กิโลเมตร นั่นหมายความว่า “ฮวาซอง”เดินทางถึงเกาะกวมได้อย่างสบาย แต่สิ่งที่หลายคนกลัวก็คือ เรื่องของความแม่นยำ เพราะมีโอกาสที่มันจะพลาดเป้าหมาย และแทนที่จะตกลงในทะเลอย่างที่ต้องการ มันกลับไปตกบนเกาะกวมแทน
เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ถึงแม้ฮวาซอง-12 จะไม่ค่อยแม่นยำนัก โดยมีอัตราการผิดพลาดเป้าหมายไม่เกินรัศมี 5 กิโลเมตร แต่เกาหลีเหนือตั้งเป้าไว้ที่ 30 ถึง 40 กิโลเมตร จากตัวเกาะ เพราะฉะนั้นโอกาสที่ฮวาซอง-12 จะไปตกบนเกาะนั้นน้อยมาก
ส่วนสหรัฐ ก็คงเตรียมตัวไว้พร้อมรับมือแล้ว โดยมีอาวุธให้เลือกหลายอย่าง แต่ที่คาดการณ์ไว้ก็คือ จรวด “เอสเอ็ม-3” (SM-3) หรือมีชื่อเต็มๆว่า “Standard Missile-3” มีอานุภาพเทียบเท่ากับรถบรรทุกขนาด 10 ตัน สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 1 พันกิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้ยิงขึ้นไปสกัดขีปนาวุธกลางอากาศด้วยการพุ่งเข้าชน ซึ่งระบบนี้ สหรัฐฯติดตั้งไว้ทั้งในญี่ปุ่นและบนเกาะกวม
อีกหนึ่งเขี้ยวเล็บที่สหรัฐเตรียมไว้ก็คือ ระบบป้องกันภัยขีปนาวุธ หรือที่รู้จักดีในชื่อท้าด (THAAD) การทำงานของระบบท้าด ไม่ต่างไปจากเอสเอ็ม-3 คือการยิงจรวดขึ้นไปสกัดขีปนาวุธกลางอากาศ ซึ่งสหรัฐฯก็นำไปติดตั้งอยู่ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และบนเกาะกวมเช่นกัน แต่คุณสมบัติของทาด คือ มันถูกออกแบบมาให้สกัดขีปนาวุธระยะสุดท้าย คือใช้งานได้เฉพาะตอนขีปนาวุธเข้าใกล้เป้าหมายแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้น ระบบท้าด ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ก็หมดความหมายไป เหลือแต่ที่บนเกาะกวมที่พร้อมรับมือ
ด้านผู้เชี่ยวชาญอาวุธบอกว่า ระบบท้าดจะสามารถจัดการกับฮวาซอง-12 ไปอย่างสบาย แต่ถ้าเกาหลีเหนือยิงมาพร้อมกัน 4 ลูก ท้าดอาจเก็บได้ไม่หมด แต่ทางสหรัฐฯเองก็มีไม้ตายไว้จัดการเช่นกัน นั่นคือระบบติดตามและทำลายขีปนาวุธของกองทัพเรือ ที่มีชื่อว่าแอกิส (Aegis) แต่จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯยังไม่มีการพูดถึงระบบนี้แม้แต่คำเดียว