ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจระเข้ความยาวประมาณ 3 เมตร ที่ว่ายน้ำอยู่กลางทะเลบริเวณหาดบางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติบันทึกไว้ได้ โดยคลิปดังกล่าว เป็นภาพมุมสูงที่ถ่ายจากโดรน เห็นจระเข้ขนาดใหญ่กำลังว่ายน้ำห่างจากชายฝั่งเกือบ 100 เมตร เมื่อโดรนพยายามเข้าไปใกล้ จระเข้ตัวดังกล่าวก็ตกใจและดำน้ำหายไป โดยเว็บไซต์ The Phuket News ซึ่งเป็นสื่อภาษาอังกฤษ ของจังหวัดภูเก็ต นำภาพนี้มาเผยแพร่ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม
ทั้งนี้ หลังภาพนี้เผยแพร่ออกไป นักวิชาการทางทะเล ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า การพบจระเข้ลักษณะนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อปี 2556 เคยมีผู้ถ่ายภาพจระเข้ได้ที่หาดไม้ขาว แต่เรื่องก็เงียบหายไป โดยระบุว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งตรวจสอบและค้นหาจระเข้น้ำเค็มในพิกัดที่ชาวต่างชาติบันทึกภาพได้บริเวณชายหาดบางเทา และสันนิษฐานว่าเป็นจระเข้ที่ถูกนำมาเลี้ยงและหลุดออกมา
อย่างไรก็ตาม ไม่น่าใช่จระเข้น้ำเค็มตามธรรมชาติ เพราะจากข้อมูลทางวิชาการยืนยันว่าประเทศไทยจระเข้น้ำเค็มซึ่งสัตว์คุ้มครองแต่สูญพันธ์นานแล้ว และไม่น่าจะพลัดหลงมาจากทะเลลึกในเขตประเทศเมียนมาหรือเกาะสุมาตรา เนื่องจากมีระยะทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร และ จ.ภูเก็ตอยู่พื้นที่กึ่งกลางของทะเลอันดามัน
ส่วนจระเข้ที่พบจะเป็นอันตรายหรือไม่นั้น อาจารย์ธรณ์ บอกว่า ปกติจระเข้ที่จู่โจมคน จะเป็นตามคลองที่เชื่อมต่อกับทะเล ตามป่าโกงกาง โอกาสที่จระเข้โจมตีคนตามหาดทรายมีน้อย
ล่าสุดวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบจระเข้ ตามคลิปวีดิโอ พบว่าอยู่ใกล้หาดเลพัง การพูดคุยกับผู้ดูแลพื้นที่หน้าชายหาด ยืนยันว่าระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม มีพนักงานและนักท่องเที่ยวหลายคนเห็นจระเข้ตัวดังกล่าว แต่อยู่ในระยะไกลจึงไม่แน่ใจ
ด้านประมงจังหวัดยืนยันว่าจระเข้ที่พบเป็นจระเข้น้ำจืด ขณะนี้ได้ตั้งทีมติดตาม พร้อมขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดคอยดูแล และสำรวจตลอดแนวชายหาดเพื่อสร้างความมั่นใจ นอกจากนี้ได้ประสานให้มีการใช้โดรนขึ้นบินตรวจสอบ
ด้านนายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัดภูเก็ตบอกว่า เดิมบริเวณอำเภอถลาง มีฟาร์มขออนุญาตเลี้ยงจระเข้ 2 แห่ง แต่เมื่อปี 2559 แจ้งยกเลิกไปแล้วทั้งหมด แต่เป็นไปได้ว่าจระเข้ดังกล่าวอาจอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทะเล ซึ่งในพื้นที่ อ.ถลางมีแหล่งน้ำจืดอยู่ 3-4 แหล่ง ซึ่งอาจเป็นที่อยู่ออาศัยของจระเข้ดังกล่าว
