เฮอร์ริเคน "เออร์มา" ถล่มฟลอริดา ไฟฟ้าดับกว่า 3 ล้านครัวเรือน

แม้ว่าพายุเฮอร์ริเคน “เออร์มา” จะค่อยๆ ลดระดับลง เป็นพายุความรุนแรงระดับ 2 แล้ว แต่อิทธิพลของมันยังสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับรัฐฟลอริดา ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 192 กม./ชม. ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับอันตราย

ขณะที่สหรัฐฯ กังวลว่าจะเกิดปรากฏการณ์คลื่นสูงซัดฝั่ง หรือสตอร์ม เซิร์จ ในพื้นที่ราบต่ำตลอดแนวชายฝั่งทางตะวันตกของรัฐ โดยคาดว่าคลื่นจะสูงประมาณ 4-5 เมตร ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในย่านที่อยู่อาศัย

ส่วนที่เมืองไมอามี มีรายงานคลื่นสูงซัดฝั่ง ส่งผลให้ถนนแทบทุกสายในย่านการค้าใจกลางเมือง ถูกน้ำทะเลทะลักเข้าท่วม ความสูงระดับเอว ขณะที่กำลังลมรุนแรงกระทบต่อการให้บริการของสนามบินนานาชาติไมอามี จนต้องสั่งปิดให้บริการชั่วคราว แต่คาดว่าจะเริ่มกลับมาให้บริการบางเที่ยวบินได้ในวันอังคารนี้ ตามเวลาท้องถิ่น  

ด้านบริษัทผู้ให้บริการจ่ายกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของรัฐฟลอริดา รายงานว่า ประชาชนมากกว่า 3.4 ล้านคนยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เบื้องต้น มีรายงานผู้เสียชีวิตในรัฐฟลอริดาแล้วอย่างน้อย 3 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากพายุลูกนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 28 คน 

ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานว่า ขณะนี้ศูนย์กลางของพายุกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆขึ้นไปทางตอนเหนือ ผ่านเกาะมาร์โก ไปยังเมือง ฟอร์ต ไมเออร์ส และกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองแทมปา ซึ่งมีประชากรอยู่หนาแน่น ประมาณ 3 ล้านคน

สำหรับที่เมืองแทมปา ไม่เคยเผชิญพายุเฮอร์ริเคนขนาดใหญ่มานับตั้งแต่ปี 1921 แต่ทางการยืนยันว่าได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ เบื้องต้น ได้มีการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้านหรือศูนย์พักพิงเป็นเวลา 24 ชม. ในช่วงที่พายุเข้า ขณะที่ประชาชนพากันตื่นเต้นกับปรากฏการณ์ที่น้ำทะเลถูกลมพายุดูดกลืนหายไปจากชายหาดนอกชายฝั่งฮิลส์โบโร เบย์ ก่อนที่พายุจะพัดขึ้นฝั่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศให้รัฐฟลอริดาเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน และอนุมัติให้รัฐบาลกลางเข้ามาช่วยเหลือ โดยทรัมป์เองยืนยันว่า เขาจะลงพื้นที่รัฐฟลอริดาเร็วๆนี้ด้วย

สำหรับเฮอริเคนเออร์มาถือเป็นเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงเป็นอันดับ 7 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เริ่มก่อตัวตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา และในช่วงหนึ่งสะสมความเร็วลมสูงสุดจนมีความรุนแรงอยู่ในระดับ 5 ก่อนจะค่อยๆอ่อนกำลังลง โดยนี่ถือเป็นครั้งแรกของปี ที่สหรัฐฯต้องเผชิญกับเฮอร์ริเคนระดับ 4 ถึง 2 ลูกในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังเฮอริเคน "ฮาร์วีย์" พัดถล่มรัฐเท็กซัสเมื่อเดือนที่แล้ว

 

ขอบคุณภาพจาก AFP