พลเอกประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า รู้ตัวคนสั่งการพานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเชื่อมโยงกันอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือไม่
ทั้งนี้ อีกข้อมูลสำคัญ คือ การระบุถึงเส้นทางการหลบหนีว่านางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางไปพร้อมกับเลขานุการส่วนตัว 1 คน โดยมีคนขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ออกจากบ้านซอยโยธินพัฒนา 3 เลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จากนั้นสับเปลี่ยนเป็นรถโตโยต้า คัมรี ที่ย่านมีนบุรี มีนายตำรวจ 1 ใน 3 คนที่ถูกคุมตัวมาสอบปากคำเป็นคนขับรถ จากนั้นรถมุ่งหน้าไปที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และเปลี่ยนรถอีกครั้ง เพื่อหลบหนีออกนอกประเทศตามช่องทางธรรมชาติที่
ส่วนการสอบปากคำตำรวจ 3 นาย ที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรหามณกุล รองผูลบัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ทั้งหมดยอมรับว่าเกี่ยวข้องกับการพานางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนี ยอมรับว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับรถยนต์โตโยต้า คัมรี สีบรอนซ์-เทา ที่ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน อายัดไว้ดำเนินดคีอาญา แต่ตำรวจไม่สามารถควบคุมตัวทั้งหมดไว้ได้ เพราะยังไม่เข้าข่ายความผิดทางอาญา เพราะขณะเกิดนางสาวยิ่งลักษณ์ยังไม่มีหมายจับจากศาล การอารักขาหรือช่วยเหลือการเดินทาง จึงถือไม่เป็นความผิด ขณะที่บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตำรวจทั้ง 3 นายแล้ว
วันเดียวกัน พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผู้บังคับการตำรจนครบาล 5 มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ไปปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้เท็จริง ส่วน พ.ต.ท.สามิตร ไชยอิ่นคำ สารวัตร กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และ ด.ต.พรพิพัฒน์ มากบุญงาม ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ถูกผู้บังคับการตำรวจภูธรนครปฐม สั่งให้ไปปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ มีความสนิทสนมกับอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่มีความสนิทสนมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี