ศาลพิพากษา จำคุก "ยิ่งลักษณ์" 5 ปี ไม่รอลงอาญา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง อ่านคำพิพากษาลับหลัง คดีปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 4 ชั่วโมง จำคุกเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา  

วันนี้ (27 ก.ย.นี้) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง อ่านคำพิพากษาลับหลัง คดีปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เมื่อเวลา 11.00 น. ภายหลังจากครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ไปปรากฏตัวต่อศาล ก่อนที่จะออกหมายจับ โดยศาลได้อ่านคำพิพากษาใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลยในคดีนี้ จำคุกเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา  

ทีมทนาย "ยิ่งลักษณ์" ขอดูคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์

นายนรวิทย์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นคงต้องการดูคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์ก่อน เพื่อนำมาวิเคราะห์ แต่จะพิจารณาอุทธรณ์คดีหรือไม่ขอดูรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนการแจ้งคำพิพากษาให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ยอมรับว่ายังไม่ทราบจะแจ้งได้ทางไหน เพราะว่าตั้งแต่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการติดต่อและไม่ทราบว่าจะติดต่อทางไหน แต่เชื่อว่าเมื่อสื่อมวลชนเสนอข่าวออกไป น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงจะรับทราบถึงคำพิพากษาที่เกิดขึ้น  

สาระสำคัญของการพิจารณาคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาระสำคัญของการพิจารณาคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีใจความว่า  เมื่อเวลา 11.15 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษา ระหว่าง อัยการสูงสุด โจทก์ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลย เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยโจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 ขณะเริ่มดำเนินโครงการ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการ ป.ป.ช.และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้มีหนังสือถึงจำเลย พร้อมระบุลักษณะความเสียหายและสาเหตุที่ทำให้การดำเนินโครงการไม่ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ทั้งเรื่องการบิดเบือนกลไกตลาด การที่รัฐบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวที่เข้าโครงการรับจำนำเป็นข้าวจำนวนมาก และระบายออกไม่ทันจนเป็นเหตุให้ข้าวเสื่อมคุณภาพทำให้ข้าวราคาตก รวมถึงมีการทุจริตในทุกขั้นตอนของกระบวนการรับจำนำ

ขณะเดียวกัน ผู้ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายมีเพียงบางกลุ่ม ไม่ครอบคลุมเกษตรกรอย่างทั่วถึง อีกทั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกได้มีหนังสือถึงจำเลยหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายรายงานผลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 มีผลขาดทุนสะสมรวม 332,372.32 ล้านบาท โดยผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองอย่างมหาศาล 

ส่วนประเด็นเรื่องการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยกรมการค้าต่างประเทศขายข้าวในสต็อกของรัฐให้บริษัทกว่างตงฯ และ บริษัทห่ายหนานฯ รัฐวิสาหกิจของมณฑล สาธารณรัฐประชาชนจีน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำวินิจฉัยเห็นว่า เป็นการขายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีการแอบอ้างสัญญาแบบรัฐต่อรัฐเพื่อนำข้าวมาเวียนขายให้แก่ผู้ค้าข้าวภายในประเทศอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยทุจริต และจำเลยเพิ่งปรับนายบุญทรงออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 30 มิถุนายน 2546 จึงแสดงให้เห็นว่าจำเลยทราบว่า สัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาให้รัฐวิสหากิจจีนต่อไปอีก การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2546 มาตรา 123/1 ลงโทษจำคุก 5 ปี

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ